7 นาฬิกาไทเทเนียมราคาหลักหมื่นจนถึงหลักล้าน

Seiko Men's SGG711 Titanium

เริ่มต้นด้วยรุ่น Seiko SGG711 Titanium โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงกลมสีดำพร้อมตัวเรือนไทเทเนียม ขนาด 37 มิลลิเมตร มาพร้อมหน้าต่างวันและวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสงเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ในที่มืด จอแสดงผลแบบอะนาล็อก โดดเด่นด้วยสร้อยข้อมือสามเส้นพร้อมตัวล็อคแบบพับได้ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูคลาสสิกสวยงาม สามารถกันน้ำลึก 50 เมตร โดยทั่วไปเหมาะสำหรับการว่ายน้ำเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ไม่ใช่การดำน้ำลึก ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท

Citizen Men's BM7170-53L Eco-Drive Titanium

ต่อมาเป็นรุ่น Citizen Eco-Drive Titanium สีเงิน โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มและมาร์กเกอร์สีเงินเรืองแสง โดยตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 43 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ป้องกันแสงสะท้อน หน้าต่างวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา สามารถกันน้ำได้ถึง 100 เมตร มีคุณสมบัติยอดนิยมอย่างหนึ่งคือเทคโนโลยี Eco-Drive ที่ขับเคลื่อนด้วยแสงโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ และทำให้มั่นใจได้ว่านาฬิกาจะแสดงเวลาได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับการแต่งตัวสบาย ๆ สไตล์ Casual หรือจะใส่นาฬิกาพร้อมกับการแต่งตัวแบบทางการก็ได้เช่นกัน ราคาประมาณ 14,000 บาท

Hamilton Khaki Field Titanium

มาต่อกันที่ Hamilton Khaki Field Titanium นาฬิกาสไตล์วินเทจที่มีความแข็งแกร่งและสามารถผจญภัยได้ด้วยตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 42 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาสวมใส่ได้อย่างสบาย หน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีเงินเข้มกับสีดำ เข็มนาฬิกาและตัวเลขบอกเวลาเคลือบสารเรืองแสงไว้เพื่อให้สามารถอ่านเวลาได้อย่างง่ายในเวลากลางคืน ห้อหุ้มด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทาน สลักคำว่า "Titanium" ไว้ที่ด้านข้างของตัวเรือน มาพร้อมสายหนังสีน้ำตาลเข้มและอ่อน ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Cal. H-10 สามารถสำรองพลังงานได้มากถึง 80 ชั่วโมง และกันน้ำได้ 100 เมตร ส่วนราคารุ่น H70665533 หน้าปัดสีดำราคาประมาณ 30,000 บาท ส่วนรุ่น H70545550 หน้าปัดสีเงินราคาประมาณ 29,000 บาท

Omega Men’s ‘Seamaster150’ Swiss Automatic Titanium

ถัดมาเป็น Omega ‘Seamaster 150’ Swiss Automatic Titanium ตัวเรือนไทเทเนียมขัดเงาพร้อมสายไนล่อนสีน้ำเงิน หน้าปัดสีขาวพร้อมเข็มโทนสีน้ำเงินและเข็มบอกชั่วโมงแบบลูกศร ตัวเรือน 38.5 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำลึก 150 เมตร โดยทั่วไปนาฬิการุ่นนี้จะเหมาะสำหรับการเล่นเซิร์ฟ การดูปะการังและกีฬาทางน้ำ แต่ไม่ได้เหมาะกับการดำน้ำ ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติและสำรองพลังงานได้มากถึง 60 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ประมาณ 170,000 บาท

Tag Heuer Carrera Men’s Automatic Chronograph Titanium

นาฬิกาสปอร์ตรุ่น Tag Heuer Carrera Men’s Automatic Chronograph Titanium มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบ PVD สีดำ ขนาด 43 มิลลิเมตร หน้าปัดสีดำจับคู่กับสายหนังจระเข้สีดำเย็บด้านบนสีแดงที่เข้ากันเป็นอย่างดี มีหน้าปัดย่อยโครโนกราฟสามหน้าปัด เข็มนาฬิกาและตัวเลขบอกเวลาเคลือบสารเรืองแสงสีเขียวสว่าง ทำให้สามารถอ่านเวลาได้ในที่มืด กันน้ำได้ 100 เมตร และสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ประมาณ 190,000 บาท

IWC Big Pilot's Heritage 48 Titanium

มาต่อกันที่ IWC Big Pilot's Heritage 48 Titanium โดดเด่นด้วยเม็ดมะยมขนาดใหญ่ที่ง่ายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังคงความวินเทจคลาสสิกไว้ในตัวเรือนเดียวกัน โดยหน้าปัดไทเทเนียมสีดำมีขนาด 48 มิลลิเมตร ค่อนข้างใหญ่ให้ลุคแข็งแกร่งและสมบุกสมบันทำให้นึกถึงนาฬิกาสมัยยุคสงครามโลก มีหน้าต่างวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีการเคลือบสารเรืองแสงไว้ที่เข็มนาฬิการวมถึงตัวเลขบอกเวลาไปถึงหน้าปัดย่อยเพื่อให้สามารถอ่านเวลาได้อย่างง่ายดายในเวลากลางคืน ที่สำคัญเลยก็คือนาฬิกาเรือนนี้ใช้วัสดุ Soft Iron หุ้มตัวเรือนชั้นในเพื่อป้องกันสนามแม่เหล็ก และเมื่อพลิกไปด้านหลังจะเห็นช่องกลมเล็ก ๆ ที่เอาไว้ดูระดับพลังงานสำรอง 8 วัน ซึ่งมีความแปลกใหม่และเป็นเอกลักษณ์มากสำหรับนาฬิการุ่นนี้ มาพร้อมสายหนังสีน้ำตาลพรีเมียมเข้ากันกับตัวเรือนเป็นอย่างดี ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 59215 สำรองพลังงานได้มากถึง 192 ชั่วโมง ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือนเท่านั้น ราคาประมาณ 500,000 บาท

Richard Mille 029 Titanium

ปิดท้ายด้วยแบรนด์นาฬิกาที่ขึ้นชื่อเรื่องความแพงอย่าง Richard Mille ซึ่งนาฬิกาไทเทเนียมของ RM ก็มีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน แต่จะขอยกรุ่น RM 029 เพราะเป็นนาฬิกาที่โดดเด่นในด้านการใช้งาน มีวันที่ขนาดใหญ่อยู่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกา ทำให้สามารถอ่านวันที่ได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 5 เคลือบ Titalyt ที่เป็นกรรมวิธีชั้นสูงในการผลิตนาฬิกาของ RM หน้าปัดแบบสเกลเลตันขนาด 30.25 x 28.45 มิลลิเมตร โรเตอร์เป็นทรงรูปขาคณิตส่วนสะพานที่เป็นโครงจะเคลือบด้วย PVD เป็นสีดำ ทำให้มีความแข็งแกร่งและทนทาน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การทดสอบที่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความแข็งแรงที่เข้มงวด ซึ่งใช้เวลานานกว่า 10 ปีในการทดสอบความแข็งแรงและทนทานต่อการกระแทก ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre RMAS7 สามารถสำรองพลังงานได้ 55 ชั่วโมง เดินด้วยความถี่ 28,800 ต่อชั่วโมง ราคาประมาณ 2,300,000 บาท