Auction House Logo

Hands-On Review Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune | Auction House

Hands-On Review Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune | Auction House

Hands-On Review Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe สุดยอดนาฬิกาดำน้ำครบทุกฟังก์ชัน | Auction House

ดูวิดีโอ Review Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร

"นาฬิกา" ถูกออกแบบมาหลากหลายประเภท เพื่อให้เข้ากับการใช้งานในแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา Sport Diver เพื่อใช้สำหรับการดำน้ำ หรือ Dress Watch ที่เหมาะสำหรับใส่ออกงานทางการ ซึ่ง Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune ได้ผสานนาฬิกาทั้ง 2 ประเภท ให้กลายมาเป็น Everyday Watch ได้อย่างลงตัว

Blancpain เป็นแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังเป็นผู้บุกเบิกวงการดำน้ำด้วยการสร้างสรรค์ Fifty Fathoms นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของโลกได้สำเร็จในปี 1953 ส่วนนาฬิการุ่น Bathyscaphe ได้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1956 ซึ่งแบรนด์ Blancpain ได้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลก่อนกาลเวลา โดยตั้งใจจะสร้าง Bathyscaphe ให้เป็นนาฬิกาดำน้ำที่สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น จึงได้มีการลดขนาดขอบตัวเรือนให้บางลง และเพิ่มฟังก์ชันวันที่ เพื่อให้เป็นนาฬิกาสปอร์ตที่สามารถสวมใส่ได้ในทุก ๆ วัน อีกทั้งยังกันน้ำลึกได้ตามแบบฉบับ Diver Watch จึงออกมาเป็นนาฬิกา Bathyscaphe อย่างที่เรารู้จักในทุกวันนี้

ซึ่ง Bathyscaphe ได้ถูกนำกลับมาผลิตอีกครั้งในรูปแบบใหม่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของ Fifty Fathoms ในปี 2013 โดยสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มีความโมเดิร์นขึ้น ดูสปอร์ต เรียบง่าย และมีการดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่อมาในปี 2018 ทาง Blancpain ก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับวงการนาฬิกาเป็นอย่างมาก เพราะได้รวมเอากลไกที่มีความสลับซับซ้อนอย่าง Complete Calendar ฟังก์ชันสุดไอคอนิก มาผสานเข้ากับความสามารถในการดำน้ำได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เกิดเป็นนาฬิกา Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune ในวัสดุ Steel สุดยอดนาฬิกาสปอร์ต Diver ที่สวมใส่ได้ในทุกวัน

โดยในปี 2022 นี้ Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune มาพร้อมกับ 2 วัสดุใหม่ นั่นคือ Titanium และ Red Gold โดยนาฬิกายังคงหลอมรวมสัญลักษณ์ของ Blancpain ทั้งสองมิติเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างครบถ้วน ได้แก่ ดีเอ็นเอความสปอร์ตของนาฬิกาดำน้ำ Fifty Fathoms Bathyscaphe และฟังก์ชัน Complete Calendar พร้อม Moon phase แบบดั้งเดิม

ในด้านการออกแบบ นาฬิกาทั้งสองรุ่นมีขนาดตัวเรือนที่ 43 มิลลิเมตร โดยรุ่นตัวเรือนไทเทเนียมจะคุมโทนเฉดสีเทาล้วน ให้ลุคสปอร์ต ออกแนว Tool watches ในขณะที่รุ่นตัวเรือนเรดโกลด์ จะให้ลุคที่หรูหรา ซึ่งจุดเด่นของคอลเลกชันนี้อยู่ที่ฟังก์ชัน Complete Calendar ที่สามารถบอกวัน, วันที่ และเดือน ได้ครบหมด

พร้อมทั้ง Layout สุดไอคอนิกของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างวัน และ เดือน ตรงบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนบริเวณ 6 นาฬิกาจะแสดงข้างขึ้น-ข้างแรม หรือที่เรียกว่า Moonphase ที่เป็นรูปพระจันทร์ยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์เสมอมา และปิดท้ายด้วยการบอกวันที่อันแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป โดย Blancpain จะใช้เข็มปลายสีแดงเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยวเพื่อชี้ไปที่วันที่ซึ่งอยู่บริเวณรอบหน้าปัด ส่วนระบบกลไกของ Blancpain ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษไม่ให้เกิดความเสียหาย ทำให้สามารถปรับตั้งวันที่ได้ตลอดเวลาด้วยปุ่มข้างตัวเรือน โดยไม่จำเป็นต้องระวังการตั้งวันที่ในช่วงเวลาเที่ยงคืนเหมือนนาฬิกาทั่วไป เช่น หากต้องการตั้งค่าเดือนก็สามารถกดปุ่มขวาบนเพื่อตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย สะดวกและรวดเร็ว

นอกจากนี้แล้ว นาฬิการุ่นนี้ก็ยังคงดีเอ็นเอของการเป็นนาฬิกาดำน้ำเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เพราะยังคงการกันน้ำลึกได้ถึง 300 เมตร มาพร้อมขอบหน้าปัดแบบสเกลจับเวลาหมุนได้ทิศทางเดียว และเม็ดมะยมแบบขันเกลียวแน่น หรือที่เรียกว่า Screw Down อีกทั้งยังมีการเคลือบสารเรืองแสงตรงชุดเข็มและหลักชั่วโมงขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาใต้น้ำได้อย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้ทำให้ Blancpain Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune เป็นนาฬิกาที่ครบครันทุกฟังก์ชันการใช้งาน และเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่า "ครบจบในเรือนเดียว"

การที่เราจะเข้าถึงนาฬิการะดับนี้ได้นั้น จำเป็นจะต้องมองลึกลงไปที่รายละเอียดต่าง ๆ ที่ทาง Blancpain ให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบ รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุชนิดพิเศษ และที่สำคัญคือ การเก็บงานด้วยมือ หรือ Hand Finishing ที่จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความประณีตในการรังสรรค์ เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด

นาฬิการุ่นตัวเรือนไทเทเนียม จะเน้นการออกแบบที่เรียกว่า Monochromatic คือการผสมผสานชุดสีเดียวกันที่มีหลายเฉดตั้งเเต่อ่อนไปจนถึงเข้มให้กลมกลืนกัน หน้าปัดของนาฬิกาจะเป็นสีเทาลวดลายซันเบิร์สต์ (Sunburst) ที่เล่นแสงได้ดีและให้เฉดสีเทาที่แตกต่างกัน เมื่อแสงตกกระทบ จะทำให้หน้าปัดดูมีมิติที่งดงาม ส่วนขอบหน้าปัดเซรามิกหมุนได้สีเทา (Anthracite Grey) ก็เข้ากับตัวเรือนได้เป็นอย่างดี

ส่วนรุ่นตัวเรือนเรดโกลด์ จะโดดเด่นด้วยการเล่นเฉดสีน้ำเงินตัดกับสีเรดโกลด์ได้อย่างลงตัว เช่น ตรงขอบหน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินก็จะตัดกับขีดสเกลจับเวลาที่ผลิตจาก Ceragold™ ทำให้นาฬิกาโดดเด่นไปอีกแบบ ส่วนหน้าปัดของเรือนนี้จะแตกต่างจากลวดลายซันเบิร์สต์เรือนที่แล้ว

ตรงที่บริเวณขอบนอกหน้าปัดจะมีสีน้ำเงินเข้ม และไล่เฉดมาเป็นสีฟ้าอ่อนตรงกลาง ทำให้หน้าปัดมีมิติที่แตกต่างเมื่อเล่นกับแสง มองดูสวยงาม

นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยการทำงานของกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ (Calibre 6654.P) เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และสำรองพลังงานได้สูงสุด 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน ซึ่งสะดวกมากสำหรับคนที่สวมใส่นาฬิกาทุกวัน ทำให้สามารถวางนาฬิกาทิ้งไว้ในช่วงเสาร์ อาทิตย์ได้อย่างสบาย และหยิบกลับมาใส่ได้ในวันจันทร์โดยไม่จำเป็นต้องมาขึ้นลานใหม่

สำหรับสายนาฬิกา ก็จะถูกแมตช์ตามธีมสีของแต่ละรุ่น โดยตัวเรือนเรดโกลด์จับคู่มากับสายผ้าใบสีน้ำเงิน ในขณะที่ตัวเรือนไทเทเนียมจะมาพร้อมกับสายผ้าใบสีเทา ซึ่งสายที่เราเห็นอยู่นี้เป็นสายชนิดพิเศษที่เรียกว่า Sail-canvas Strap ที่บุด้วยยางด้านหลัง โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตสายจะเป็นชนิดเดียวกับผ้าใบเรือ ทำให้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทาน และแห้งได้อย่างรวดเร็ว สามารถใส่ดำน้ำได้เลย ซึ่งเหมาะอย่างมากกับการใช้งานในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่ลงน้ำหรือในชีวิตประจำวัน

อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Grand Seiko มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่

Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck Muller ได้ที่นี่

Recommended Posts