ฉลองครบรอบ 40 ปี ของ G-SHOCK
G-SHOCK กลับมาพร้อมคอลเลกชันสุดพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพรีเมียมในประเทศไทยพร้อมกับคุณคิคุโอะ อิเบะ นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกนาฬิกา ที่บินลัดฟ้าจากญี่ปุ่นเพื่อมาร่วมเปิดตัวเรือนเวลา G-SHOCK MRG-GASSAN (MRG-B2000GA) งานหัตถศิลป์ที่น่าหลงใหลอันได้รับแรงบันดาลใจมากจากการตีดาบญี่ปุ่นแห่งตระกูล “กัสซัง” นักตีดาบจักรพรรดิ ตามมาด้วย ซีรีส์ G-SHOCK Flare Red Limited Edition สุดร้อนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเปลวเพลิงสุริยะ ถ่ายทอดเรื่องราวสู่รุ่น MTG-B3000FR และ Mud Master GWG-B2040FR และอีกรุ่นพิเศษที่บ่งบอกถึงความเป็น The Legend คือ G-SHOCK x Eric Haze Collaboration Full Metal GMW-B5000EH บอกเล่าที่มาแห่ง 40th Anniversary Logo พร้อมดีไซน์ซิกเนเจอร์เฉพาะตัวของคุณ Eric Haze ผ่าน DNA “Absolute Toughness” ทั้งหมดนี้พร้อมให้ทุกคนได้จับจองกันแล้วที่งาน Central International Watch Fair 2022 (เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2022) ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2565 – 31 ตุลาคม 2565 ที่ Event Hall ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกาของห้างเซ็นทรัลทุกสาขา รวมถึงช่องทางการช้อปปิ้งของทางห้างฯ ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดแห่งปี!
G-SHOCK MRG-GASSAN 40th Anniversary
G-SHOCK 40th ANNIVERSARY MRG-GASSAN (MRG-B2000GA) อยู่ในซีรีส์ MRG ที่รวมนาฬิการุ่นพรีเมียมมาไว้อย่างครบครัน โดยนาฬิการุ่นใหม่ได้นำอัตลักษณ์ของดาบญี่ปุ่นมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้มีความพิเศษอยู่ที่กรอบตัวเรือนไทเทเนียมที่สร้างลวดลายเหมือนในดาบ อะยาสุงิ-ฮาดะ แห่งตระกูลกัสซัง ซึ่งรังสรรค์ขึ้นในขั้นตอนการอบชุบเหล็กใบดาบ ส่วนกรอบตัวเรือนจะรังสรรค์ขึ้นจากกระบวนการผลิตและตกแต่งที่ผสมผสานไทเทเนียมบริสุทธิ์และไทเทเนียมชนิดพิเศษ Ti64 หลังจากนั้นนำไปหลอมแล้วทำการตกผลึกใหม่อีกครั้ง พร้อมเคลือบอาร์คไอพีสีฟ้าเทา โดดเด่นด้วยพื้นหน้าปัดลวดลายเพชรแบบดั้งเดิม ฮิชิมากิ-การะ ที่มักพบเห็นได้บนด้ามจับของดาบญี่ปุ่น ในขณะที่บริเวณขอบหน้าปัดมีการดีไซน์ตกแต่งชวนให้นึกถึงพัดแบบพับได้ อีกทั้งยังเพิ่มเติมดีไซน์ต่าง ๆ เข้าไปอีก ตั้งแต่หลักชั่วโมงที่ชวนให้นึกถึงความโค้งของใบดาบไปจนถึงเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีที่มีลักษณะการตัดเจียรแบบหลายเหลี่ยมมุม ทั้งหมดนี้ทำให้นาฬิกามีความโดดเด่นด้วยพื้นผิวที่ปรากฎความซับซ้อนจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด มาพร้อมสายลวดลายตะไบที่มักใช้กับส่วนที่เป็นด้ามจับของดาบญี่ปุ่นเพื่อป้องกันไม่ให้ดาบหลุดออกจากด้ามจับ พร้อมสลักคำว่า “鍛” และ “錬” เพื่อบ่งบอกถึงความทุ่มเทของตระกูลกัสซังที่มีให้กับการตีดาบ
ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบโดยซาดาโนบุ กัสซัง ส่วนปุ่มกดและเม็ดมะยมจะใช้ระบบโครงสร้างป้องกันแรงกระแทกชนิดพิเศษ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความทนทานและความสะดวกในการใช้งาน มาพร้อมฟังก์ชันบอกเวลาที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับ Bluetooth® และการควบคุมด้วยคลื่นวิทยุเพื่อให้แสดงเวลาได้อย่างถูกต้อง พร้อมตัวเรืองแสง LED อันโดดเด่นเพื่อรองรับการดูนาฬิกาในที่มืด และกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่เคลือบสารกันสะท้อน มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและมีความโปร่งใสสูง โดยนาฬิการุ่นนี้มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 300,000 บาท
Flare Red MTG-B3000FR 40th Anniversary
FLARE RED MTG-B3000FR อยู่ในซีรีส์ MT-G ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการผสมผสานวัสดุ โลหะ คาร์บอน และเรซิน เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ทำให้นาฬิกามีความแข็งแรงและทนทานมากยิ่งขึ้น โดยนาฬิการุ่นนี้จะโดดเด่นด้วยลวดลายบนหน้าปัดที่ถูกพิมพ์ด้วยหมึกใส ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเปลวไฟอันเจิดจ้า ทำให้หน้าปัดมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานเข้ากับสีแดงประจำแบรนด์อันสดใสได้อย่างลงตัว มาพร้อมกรอบหน้าปัดสุดพิเศษแบบหลายชั้นหลากหลายสีที่รังสรรค์ขึ้นจากคาร์บอนและเส้นใยแก้วสีร่วมกับแผ่นใยแก้วเรืองแสงที่สร้างลวดลายได้อย่างสวยงามและน่าทึ่ง ซึ่งกรอบหน้าปัดในแต่ละเรือนจะแตกต่างกันออกไปเนื่องจากรายละเอียดของขั้นตอนในการผลิต ทำให้ได้ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์และดูมีพลังด้วยคุณสมบัติการเรืองแสง โดยเมื่ออยู่ในที่มืดแสงจากกรอบหน้าปัด หลักชั่วโมง และชุดเข็ม จะเปล่งประกายออกมา ทำให้เห็นถึงความสวยงามของลวดลายและสามารถอ่านเวลาได้อย่างง่ายดาย ดูมีเสน่ห์และเท่ในขณะเดียวกัน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและมาพร้อมกับการเคลือบสารกันแสงสะท้อนอย่างดี
วงแหวนขอบตัวเรือนถูกเคลือบไอพีสีพิงค์โกลด์ รวมไปถึงตัวล็อกสาย ห่วงรัดสาย ปุ่มกด และเม็ดมะยม ส่วนด้านหลังตัวเรือนจะเป็นฝาทึบถูกเคลือบด้วยไอพีสีดำ แกะสลักเป็นโลโก้ 40 เพื่อสื่อถึงการครบรอบ 40 ปีของ G-SHOCK ซึ่งออกแบบโดย Eric Haze ดีไซเนอร์และศิลปินชื่อดังจากนิวยอร์ก ซึ่งนาฬิการุ่นนี้จะมาพร้อมห่วงรัดสายทำจากสเตนเลสสตีลถูกสลักด้วยเลเซอร์เป็นรูปดาว 4 ดวง และคำว่า “SINCE 1983” เพื่อบ่งบอกถึงปีที่เป็นจุดกำเนิดของ G-SHOCK โดยนาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยการแสดงเวลาด้วยเข็มแบบแอนะล็อก (Analog) มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมโมดูลบอกเวลาที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เชื่อมต่อกับ Bluetooth® มาพร้อมการควบคุมด้วยคลื่นวิทยุเพื่อให้สามารถบอกเวลาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้จะเรืองแสงอย่างโดดเด่นด้วยไฟ LED ความสว่างสูง เพื่อรองรับการดูอ่านค่าเวลาในที่มืด
Flare Red GWG-2040FR 40th Anniversary
FLARE RED GWG-2040FR อยู่ในซีรีส์ Master of G ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานบนภาคพื้นดินอย่างสมบุกสมบัน จึงมีการดีไซน์โครงสร้างให้สามารถป้องกันฝุ่นและโคลนได้เป็นอย่างดี โดยนาฬิการุ่นนี้จะโดดเด่นด้วยลวดลายของกรอบหน้าปัดเรืองแสงที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบบีบอัด ซึ่งเป็นวัสดุผสมที่ใช้ในลำตัวของเครื่องบิน โดยวัสดุนี้เองได้ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นชิ้นส่วนพิเศษของนาฬิกาอยู่ที่บริเวณตำแหน่ง 6 นาฬิกา และ 12 นาฬิกา ซึ่งคาร์บอนไฟเบอร์และอีพ็อกซีเรซินเรืองแสงจะถูกนำมาผ่านกระบวนการขึ้นรูป และตัดโลหะด้วยแรงดันที่อุณหภูมิสูง จากนั้นตามด้วยกระบวนการขัดและลงสี ทำให้เมื่ออยู่ในที่แสงจ้าจะมีลักษณะเป็นสีดำ แต่หากอยู่ในที่มืดจะเรืองแสงขึ้นมาเสมือนเปลวสุริยะที่เข้ากับขอบตัวเรือนได้เป็นอย่างดี ดูโดดเด่นและสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์
ซึ่งเฉดสีเรืองแสงในแต่ละเรือนจะแตกต่างกันออกไปตามรายละเอียดของกระบวนการผลิตที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ รวมไปถึงฟังก์ชันการใช้งานจะเหมือนกับนาฬิการุ่นแรกที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ แต่จะแตกต่างแค่ในส่วนของการแสดงเวลาที่เป็นแบบดิจิทัล โดยจะเห็นได้ตัวเลขที่ปรากฏอยู่บริเวณ 6 นาฬิกา พร้อมไฟ LED ที่มีความสว่างจ้ากว่า
Eric Haze GMW-B5000EH 40th Anniversary
G-SHOCK Full Metal รุ่น GMW-B5000EH เป็นการร่วมมือกับ Eric Haze นักออกแบบลวดลายกราฟฟิตี้ (Graffiti) ผู้โด่งดังจากนิวยอร์ก จนกำเนิดเป็นเรือนเวลารุ่นพรีเมียมเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ของ G-SHOCK ซึ่งนาฬิการุ่นพิเศษนี้ผลิตจากวัสดุโลหะทั้งตัวเรือน (Full Metal) มีการดีไซน์ลวดลายในแบบเฉพาะตัวของ Haze ลงบนสายที่มีการเคลือบไอพีสีดำ ผ่านการสลักด้วยเลเซอร์ทำให้ลวดลายของนาฬิกาออกมาเป็นรูปแบบกราฟฟิตี้อันเป็นซิกเนเจอร์ดีไซน์เฉพาะตัวของ Haze นอกจากนี้บริเวณฝาหลังของนาฬิกายังมีโลโก้ 40 ปี รวมถึงลายเซ็นของ Haze ที่จะปรากฏบนหน้าจอดิจิทัลเมื่อแสงไฟทำงาน เมื่อเอาคุณสมบัติของนาฬิกามาผนวกเข้ากับลูกเล่นที่ดูล้ำสมัยทำให้การร่วมมือกันครั้งนี้เหมาะจะเป็นสินค้าเปิดตัวเพื่อฉลองครบรอบ 4 ทศวรรษอย่างแท้จริง โดยนาฬิการุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 35,000 บาทเท่านั้น
เรียกได้ว่า G-SHOCK เปิดตัวสินค้าสำหรับการฉลองครบรอบ 40 ปี ได้อย่างน่าสนใจมาก สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของเรือนเวลาสุดเอ็กคลูซีฟทั้ง 3 รุ่นนี้ สามารถไปเลือกชมได้ที่งาน Central International Watch Fair 2022 วันที่ 28 กันยายน -31 ตุลาคม 2565 พร้อมรับข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดในรอบปี พบกันที่ Event Hall ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกาของห้างเซ็นทรัลทุกสาขา รวมถึงช่องทางการช้อปสุดสะดวกของห้างเซ็นทรัล ทั้ง Central App แอปพลิเคชั่นสำหรับช้อปปิ้งบนมือถือ, เว็บไซต์ www.central.co.th ช้อปสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง, Central Chat & Shop ช้อปผ่านแชท Line Official @centralofficial , Central Personal Shopper On Demand โทร.1425 หรือช้อปผ่าน Facebook
Page: CentralDepartmenstore คลิก www.facebookcom/CentralDepartmentStore
#CentralInternationalWatchFair #DiscoverTheWatchThatDefinesYou
#GSHOCKTH #CASIOCMG #40thAnniversary
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่
Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck muller ได้ที่นี่