Auction House Logo

H.Moser & Cie. เปิดตัวนาฬิกาคอนเซ็ปต์ Tiger’s Eye

H.Moser & Cie. เปิดตัวนาฬิกาคอนเซ็ปต์ Tiger’s Eye

H.Moser & Cie. เปิดตัวนาฬิกาคอนเซ็ปต์ Tiger’s Eye

H.Moser & Cie. Endeavour Tourbillon Concept Tiger's Eye นาฬิกาคอนเซ็ปต์พลอยตาเสือ

H. Moser & Cie. เป็นแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสที่มีความเรียบง่ายและเฉียบขาด มีการพัฒนาคุณภาพนาฬิกาและกลไกที่เยี่ยมยอด ให้ความสำคัญกับการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงการขัดแต่งกลไกด้วย อีกทั้งยังมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ โดยทางแบรนด์จะเน้นผลิตนาฬิกาเดรสเป็นหลัก ทำให้นาฬิกาของ H. Moser & Cie. มีความเรียบหรูและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดยในปี 2021 นี้ ทางแบรนด์ได้เปิดตัว H.Moser & Cie. Endeavour Tourbillon Concept Tiger's Eye นาฬิกาคอนเซ็ปต์ Tiger's Eye หรือเรารู้จักในชื่อ "หินตาเสือ" เป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนเครื่องรางพลังแห่งดวงตาที่สาม และหินนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ซึ่งในตำนานเล่าว่าทหารจากจักรวรรดิโรมันสวม Tiger's Eye ไว้รอบคอเพื่อป้องกันในการต่อสู้ และในยุคกลางก็เคยใช้เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้าย แต่สำหรับแบรนด์ Moser แล้วนั้น Tiger's Eye ใช้ปัดเป่าความเบื่อหน่ายหรือความซ้ำซากให้ออกไป จึงทำให้เกิดนาฬิกาเรือนนี้ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งในการออกแบบหน้าปัดจากทีมงานที่เคยทำนาฬิกามาจากชีสสวิส

นาฬิกา Endeavour Tourbillon Concept Tiger's Eye โดดเด่นด้วยหน้าปัดที่ทำจากหิน Tiger’s Eye ที่เกิดจากการทับซ้อนของเส้นใยจนกลายเป็นลวดลายเส้นตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละเรือนจะมีลวดลายที่แตกต่างกันอย่างสวยงาม โดยหน้าปัดจะมาในรูปแบบแนวมินิมอลไม่มีโลโก้ของแบรนด์และหลักชั่วโมง มีเพียงเข็มชั่วโมง-นาทีรูปทรงใบไม้ที่ใช้บอกเวลา และมีกรง One-Minute Flying Tourbillon แบบฉลุอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีการขัดแต่งและประกอบขึ้นอย่างสวยงาม

โดยมีหน้าปัดให้เลือก 2 สี 2 วัสดุ ได้แก่ Falcon’s Eye โทนสีน้ำเงินอมเทา ที่ทำจาก White Gold 18K มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน และ Ox’s Eye โทนสีน้ำตาลอมแดง ทำจากวัสดุ Red Gold 18K มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาล ขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic In-House Cal.HMC804 ใช้ Rotor ทองคำ 18K เข้าลาน 2 ทิศทางที่ขัดแต่งอย่างประณีตและสวยงาม สามารถสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง ซึ่งนาฬิการุ่นนี้มีการผลิตในจำนวนจำกัด เพียงสีละ 50 เรือนเท่านั้น และผลิตเพียง 20 เรือนต่อปี ในราคาประมาณ 2,365,000 บาท>

Recommended Posts