เปิดตัว Omega Seamaster Diver 300M America’s Cup Chronograph
เปิดตัว Omega Seamaster Diver 300M America’s Cup Chronograph
Omega เป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงในด้านการจับเวลามาอย่างยาวนาน เพราะนาฬิกาโครโนกราฟของโอเมก้ามีความแม่นยำสูง อีกทั้งยังถูกสร้างมาเพื่อการจับเวลาโดยเฉพาะ จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานไม่เป็นสองรองใคร ในวันที่ 6-21 มีนาคม 2564 ณ เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้มีการจัดแข่งขันเรือใบ America’s Cup ครั้งที่ 36 โดยทาง Omega ได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการในแข่งขันรายการนี้ และการได้เป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันนี้ ทางแบรนด์จึงได้เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ Omega Seamaster Diver 300M America’s Cup Chronograph Ref.210.30.44.51.03.002 ออกมาเป็น Special Edition ที่ผลิตในจำนวนจำกัดแต่ไม่ได้ระบุจำนวนการผลิตและไม่ได้สลักหมายเลขลำดับไว้บนตัวเรือน
ตัวเรือน Stainless steel ขนาด 44 มิลลิเมตร ขอบหน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินหมุนได้ทิศทางเดียวพร้อมสเกลดำน้ำสีขาวเคลือบอีนาเมล เพื่อให้ความเงางามและทนต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี หน้าปัดสีน้ำเงินมีความเงาสลักผิวเป็นลายคลื่น ให้ความรู้สึกเบาสบายเหมือนเห็นคลื่นทะเลที่ซัดไปมา ตัดกับเข็มวินาทีโครโนกราฟอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์สีแดงที่ส่วนปลายของเข็มเป็นโลโก้ America’s Cup มาพร้อมหน้าปัดย่อย 2 อัน โดยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาเป็นหน้าปัดย่อยจับเวลา (Countdown indicator) ขอบหน้าปัดสีแดงซึ่งมีแถบสเกลสีขาว 0-5 นาที และแถบสเกลสีขาวสลับแดงช่วง 5-10 นาที ซึ่งเป็น 10 นาทีสุดท้ายก่อนการปล่อยตัว พร้อมกับหน้าต่างบันทึกเวลารายชั่วโมง ในขณะที่หน้าปัดย่อยวินาทีอยู่ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ที่ปรับสเกลให้ทุกช่องเป็น 5 วินาที และหน้าต่างวันที่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วนด้านข้างตัวเรือนบริเวณ 2 นาฬิกามีปุ่ม Start - Stop สีแดงที่ทำงานร่วมกับเข็มวินาทีจับเวลาสีแดง และมีปุ่ม Reset สีน้ำเงินที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งทั้งสองปุ่มนี้ถูกหุ้มด้วยยางเนื้อนุ่มเพื่อให้สามารถกดได้อย่างแม่นยำแม้ยามเปียกน้ำ โดดเด่นด้วยความพิเศษของปุ่ม Chrono-Lock ที่อยู่บริเวณ 8 นาฬิกา ที่ทำหน้าที่ล็อกการใช้งานระบบจับเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะแล่นเรือใบ และอีกปุ่มที่สำคัญคือฮีเลียมวาล์วที่อยู่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา เพื่อลดแรงดันน้ำในยามที่อยู่ในน้ำลึก ในส่วนของสายนาฬิกานั้นจะมี 2 แบบ คือสาย Stainless steel และสายยางสีน้ำเงินที่มีระบบ Quick Change เพื่อให้สามารถปลดล็อกเปลี่ยนสายได้ง่ายเพียงแค่ใช้มือกด ซึ่งระบบล็อกสายแบบใหม่นี้ทางแบรนด์พัฒนาขึ้นมาใหม่พร้อมกับและจดสิทธิบัตรเรียบร้อย โดยนาฬิการุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ ราคาหน้าเว็บอยู่ที่ 357,000 บาท