ทำความรู้จักกับ '3 Pieces Collection' | Watch Talk EP.12
ดูวิดีโอ ทำความรู้จักกับ '3 Pieces Collection' | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
Auction House จะมารีวิวนาฬิกา 3 คอลเลกชัน ได้แก่ Everyday Watch, Dress Watch และ Sport Watch ที่มีหลากหลายราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน

Panerai Radiomir
Panerai แบรนด์ลูกครึ่งอิตาลี-สวิตซ์ที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยและ crown guard อันเป็นเอกลักษณ์ เชี่ยวชาญในการผลิตอุปกรณ์ความแม่นยำสำหรับนักดำน้ำอย่างเข็มทิศและเกจวัดระดับความลึก พวกเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับกองทัพเรืออิตาลีในฐานะซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการ ความสำเร็จครั้งแรกที่เป็นนวัตกรรมระดับโลกอันน่าจดจำของ Panerai คือการสร้าง “RADIOMIR” ผงที่ทำมาจากสสาร Radium มีความสามารถทำให้หน้าปัดนาฬิกาสามารถเรืองแสงได้ Panerai ถือเป็นแบรนด์แรก ๆ ของโลกเลยที่มีเทคโนโลยีนี้! Radiomir 42mm หรือ PAM00620 หน้าปัดสีดำขนาด 42 มิลลิเมตร ตัวเรือน Steel AISI 316L ที่มีการขัดแต่งเป็นอย่างดี เพิ่มความวินเทจด้วยการจับคู่กับสายหนังสีดำ ทำงานด้วยกลไก Calibre P.4000 ซึ่งเป็นกลไกไขลานอัตโนมัติกลไกแรกของแบรนด์ กลไกมีความหนาเพียง 3.95 มิลลิเมตร ตกแต่งด้วยอัญมณี 31 เม็ด สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง

Omega Seamaster Diver 300M
Omega Seamaster Diver 300M เปิดตัวครั้งแรกในปี 1993 ด้วยการทำลายสถิติโลกด้านการดำน้ำ Free Dive และจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Omega Seamaster โด่งดันจนเป็นที่จับตามองคือการที่ Pierce Brosnan หรือ James Bond ในภาพยนต์เรื่อง Golden Eye (พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก) ได้สวมใส่นาฬิกา Seamaster Diver 300M แสดงในภาพยนต์ ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "นาฬิกา James Bond" แม้จะผ่านมาเกือบ 30 ปี Driver 300 ก็ยังคงเป็นนาฬิกาที่เป็น James Bond ใส่อยู่จนถึงปัจจุบัน Diver 300M (Ref. 2531.80.00) หยุดผลิตไปแล้ว เพราะฉะนั้นรุ่นนี้จึงมีความเป็น Original มากกว่ารุ่นใหม่ที่ขายอยู่ในปัจจุบันเพราะเป็นดีไซน์แรกที่ Jame Bond ใส่ ถึงแม้ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้ดูแลได้ง่าย จะส่งศูนย์หรือช่างที่รู้จักก็ได้ จึงทำให้ค่า service นั้นไม่แพง อีกทั้งยังผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง (COSC) อีกด้วย

Frederique Constant Slimline Moonphase Manufacture
Frederique Constant เป็นแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิส ที่มีความสามารถตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การผลิต การประกอบ ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานการผลิตของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Frederique Constant Slimline Moonphase Manufacture มีขนาดตัวเรือน 42 มิลลิเมตร มีทั้งหมด 3 เวอร์ชัน แต่รุ่นที่เลือกมาเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีเงิน หลักชั่วโมงและหน้าปัดย่อยสีดำมาพร้อมสายหนังสีดำที่ให้ความคลาสสิกเป็นอย่างมาก ใช้กลไก In-house อัตโนมัติชุดใหม่ Cal.FC-712 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นมูนเฟสและแสดงวันที่ด้วยเข็ม ซึ่งปรับตั้งอย่างสะดวกผ่านเม็ดมะยม

Rolex Daytona
Rolex Daytona คือซีรีส์ที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นด้านความงามที่มีดีกรีถึงระดับ “Iconic” ด้วยฟังก์ชันที่ครบครันแม่นยำ เป็นนาฬิกาที่เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญสำหรับผู้ที่หลงใหลในการขับขี่และความเร็ว เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 จนถึงปลาย 1980 จุดสังเกตที่เด่นชัดคือตัวเลข Reference จะมีเพียง 4 หลักเท่านั้น และใช้ Manual Mechanical Movement ส่วนด้านความงามนั้นก็ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา มีการใช้วัสดุที่ดีขึ้นและหน้าตาสวยงามหรูหราขึ้นเรื่อย ๆ Rolex Daytona 116500LN ทำจาก Oystersteel พร้อมหน้าปัดสีขาว โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom สีดำ ที่มีสเกลวัดระยะทาง ตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร มาพร้อมสายนาฬิกา Oyster โดดเด่นด้วยมาร์คเกอร์ชั่วโมงและเข็มบอกเวลาทำจากทองคำ 18 กะรัต เข็มวินาทีตรงกลางช่วยให้ผู้สวมใส่อ่านค่าได้อย่างแม่นยำที่ระดับ 1/8 วินาที ขณะที่ส่วนแสดงเวลาอีกสองตัวบนหน้าปัดจะแสดงเวลาที่ใช้ไปในรูปแบบของชั่วโมงและนาที

IWC Pilot’s Watch "Le Petit Prince"
IWC Pilot’s Watch เป็นคอลเลกชันที่ถือเป็นพระเอกของ IWC เลยก็ว่าได้ ความโดดเด่นของนาฬิกานักบิน ก็คือหน้าปัดและตัวเลขที่มีขนาดใหญ่ เด่นชัด IWC Schaffhausen ถือเป็นแบรนด์บุกเบิกในการสร้างสรรค์นาฬิกานักบินก็ว่าได้ ย้อนไปเมื่อปี 1936 ได้มีการเปิดตัว Special Watch for Pilots เรือนแรกขึ้นมา ซึ่งมาพร้อมชุดกลไกพิเศษ ที่ทนต่อการเหนี่ยวนำของแม่เหล็ก และสามารถบันทึกเวลาในการบินได้ และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน โดยยังคงเอกลักษณ์ที่แสดงตัวตนของ IWC อันยากจะหาใครเทียบเท่า นาฬิกา “ Le Petit Prince” โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายการค้าเฉพาะของรุ่นพิเศษของ IWC เพื่อยกย่องผลงานวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Antoine de Saint-Exupérys ซึ่งเขาเป็นทั้งนักบินและนักเขียนวรรณกรรมที่ยอดเยี่ยม

Jaeger-LeCoultre Reverso Duoface Small Second
รูปลักษณ์อย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำของ Jaeger-LeCoultre ก็คือ “Reverso” เสน่ห์ของ Reverso คือตัวเรือนที่สามารถหมุนพลิกด้านหลังของนาฬิกาขึ้นมาได้ หลักการออกแบบคือให้ตัวเรือนสามารถหมุนได้ 180 องศา เพื่อสลับเอาหน้าปัดคริสตัลไว้ด้านล่าง และหมุนด้านหลังที่เป็นโลหะขึ้นมาแทนที่ ซึ่ง Reverso ถูกมองว่าเป็น Dress Watch ที่มีความเรียบหรูและเป็นทางการ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของการออกแบบรูปลักษณ์เช่นนี้ไม่ใช่เพื่อความเท่ แต่เป็นการดีไซน์เพื่อแก้ปัญหาหน้าปัดนาฬิกาที่แตกในการแข่งขันกีฬา Polo โดยเฉพาะ ตัวเรือน Stainless Steel หน้าปัดขนาด 42.9 X 25.5mm โดดเด่นด้วยหน้าปัด 2 ด้าน ด้านหน้าจะมีหน้าปัดสีขาวออกเทา มีฟังก์ชันบอกเวลาเป็นชั่วโมง นาที และวินาที ส่วนด้านหลังจะหน้าปัดสีดำ มีฟังก์ชัน 2 ไทม์โซน และมีเข็มบอกเวลากลางวัน - กลางคืน

Patek Philippe Aquanaut White Gold Ref. 5168G
Aquanaut นาฬิกาสปอร์ตยอดนิยมของ Patek Philippe เปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 โดดเด่นด้วยตัวเรือนเหลี่ยม หน้าปัดและสายยางลายตารางหรือในวงการเรียกว่า "ช็อคโกแลต" หน้าปัดแบบไล่เฉดสีจากโทนสว่างตรงส่วนกลางไปสู่สีเข้มในส่วนริมหน้าปัด พร้อมชุดล็อคแบบบานพับวัสดุไวท์โกลด์เข้ากันกับตัวเรือน เข็มชั่วโมง เข็มนาที และมาร์กเกอร์ผลิตจากไวท์โกลด์พร้อมกับเคลือบสารเรืองแสง ซึ่งต่างจาก Aquanaut รุ่นอื่น ๆ ที่เป็นเพียงการเคลือบสารเรืองแสงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของนาฬิกา Aquanaut ที่ใช้วัสดุไวท์โกลด์ มีตัวเรือนขนาดใหม่ 42.2 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์ Calibre 324SC. และสำรองพลังงานนาน 45 ชั่วโมง

Audemars Piguet Royal Oak Selfwinding Chronograph Ref.26331ST
Royal oak เป็นคอลเลกชันยอดฮิตที่สุดของแบรนด์ AP ที่จัดว่าเป็นตำนาน Luxury Sport Watch เรือนแรกของโลกที่นักสะสมนาฬิกาอยากได้มาประดับไว้ที่ข้อมือ Royal Oak Selfwinding Chronograph ref.26331ST เปิดตัวในปี 2008 มีขนาดหน้าปัด 41 มิลลิเมตร วัสดุตัวเรือนและสายทำจาก Steel หน้าปัดพื้นสีดำลวดลายตารางที่เรียกว่า Grande Tapisserie อันเป็นเอกลักษณ์ หน้าปัดย่อยด้านในสีเงินตัดกับหน้าปัดสีดำ ทำงานด้วยกลไก Selfwinding Calibre 2385

Vacheron Constantin Patrimony
Vacheron Constantin Patrimony เป็นหนึ่งในคอลเลกชันเรือธงของแบรนด์ โดยทั่วไปแล้ว Patrimony หมายความว่านาฬิกาเป็นมรดกตกทอดจากพ่อสู่ลูก จึงทำให้แบรนด์ยึดติดกับรากฐานดั้งเดิมที่แท้จริง เพราะมันยังคงให้ความรู้สึกแบบดั้งเดิม ตัวเรือน Pink gold ขนาด 41 มิลลิเมตร มาพร้อมเข็มนาฬิกาและเข็มบอกชั่วโมงที่ทำจาก Pink gold เข้ากันกับหน้าปัดสีเงินได้เป็นอย่างดี ทำงานด้วยกลไก 1120 QP บางเฉียบหนาเพียง 4.05 มิลลิเมตรเท่านั้น โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน perpetual calendar และ moon phase ที่ประดับด้วยท้องฟ้าที่มีดวงดาวและดวงจันทร์สีทองสองดวง ฝาหลังแบบเปิดเผยให้เห็นการทำงานของของกลไกไขลานอัตโนมัติที่สวยงาม
ใครชอบนาฬิการุ่นไหนคอมเมนต์มาได้เลย หรืออยากให้เรารีวิวนาฬิการุ่นไหนเป็นพิเศษแนะนำมาได้นะคะ
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่
Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck muller ได้ที่นี่