Highlight ข่าวสารนาฬิกา 2021 | Watch Talk EP.13
ดูวิดีโอ Highlight และข่าวสารนาฬิกา 2021 | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
Auction House จะมารีวิวนาฬิกาที่เปิดตัวใหม่ในงาน Watches and Wonders Geneva ปี 2021

Patek Philippe Nautilus 5711/1A-014
หลังจากที่ประธานบริษัท Patek Philippe ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะยกเลิกการผลิต Nautilus 5711/1A-010 (หน้าปัดน้ำเงิน) ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัว Patek Philippe Nautilus 5711/1A-014 นาฬิกาเวอร์ชั่นใหม่กับหน้าปัดโทนสีใหม่ด้วยหน้าปัดสี Olive-Green (สีเขียวมะกอก) พร้อมสลักลายเส้นแนวขวางเหมือนเดิมและยังคงใช้ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 40 มิลลิเมตร หนา 8.3 มิลลิเมตรเหมือนเดิม ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Caliber 26-330 S C และสำรองพลังงานได้สูงสุด 45 ชั่วโมง

Audemars Piguet Black Panther Flying Tourbillon
นาฬิกาเรือนนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของ Audemars Piguet ที่ได้ร่วมมือกับ Marvel ค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ระดับโลก โดยการเปิดตัว Audemars Piguet Royal Oak Concept Black Panther Flying Tourbillon ที่จัดทำออกมาเพียงเรือนเดียวเท่านั้น ซึ่งต่างจากรุ่นที่ผลิตในจำนวนจำกัด ด้วยตัวเรือนทองคำขาว ขนาด 42 มิลลิเมตร ตกแต่งขอบหน้าปัดด้วยลวดลายจากชุดสูทของ Black Panther โดดเด่นด้วยหน้าปัด White Gold เคลือบสีดำเสริมดีไซน์สุดไฮเทคที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการแกะสลักรูป “Black Panther” แบบ 3 มิติด้วยมือ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมากเพื่อให้หน้าปัดออกมาสวยงามที่สุด มีการโชว์กลไก Flying Tourbillon ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกาประดับด้วยโลโก้ AP อยู่ตรงกลาง จับคู่กับสายนาฬิกาสีม่วง ด้านหลังใช้กระจกแซฟไฟร์ ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน Calibre 2965 สำรองพลังงานได้สูงสุด 72 ชั่วโมง กันน้ำลึกได้ 50 เมตร โดยรายได้ทั้งหมด 100% จะมอบให้กับองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือเยาวชนที่ด้อยโอกาส

Audemars Piguet Royal Oak Extra-Thin 950 Platinum Smoked Green Sunburst
ความพิเศษของรุ่นนี้อยู่ที่หน้าปัดและวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเขียวรมควันที่ขัดแต่งด้วยเทคนิค Smoked Green Sunburst เพื่อให้ได้สีที่มีการไล่ระดับจากตรงกลางเขียวแผ่ออกไปยังขอบจะมีสีดำ โดยตัวเรือนมีขนาด 39 มิลลิเมตร หนา 8.1 มิลลิเมตร ผลิตจาก Platinum 950 เช่นเดียวกับสายนาฬิกา ขัดแต่งลวดลายซาตินทั้งตัวเรือนและสาย ยกเว้นตรงสันขอบของตัวเรือนที่มีการขัดเงา กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน เข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงแบบขีดทำจาก White gold พร้อมเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova เอาไว้เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนในที่มืด มีหน้าต่างวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไก Selfwinding Calibre 2121 สำรองพลังงานได้สูงสุด 40 ชั่วโมง และกันน้ำลึก 50 เมตร

Rolex Daytona Mother of Pearl
คอลเลกชัน Daytona เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 ผ่านงานดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของนักแข่งรถมืออาชีพมามากกว่า 50 ปี อีกทั้งยังคงยืนหยัดการเป็นสุดยอดโครโนกราฟของนาฬิกาสปอร์ตและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็มีนาฬิกาในซีรีส์ที่ชื่อว่า Daytona Mother of Pearl ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก และในปัจจุบันนาฬิการุ่นนี้ก็ได้ถูกยกเลิกการผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ราคามือสองของ Daytona Mother of Pearl ปรับตัวสูงขึ้น ก็ต้องมาดูกันว่าราคาของรุ่นนี้ในอนาคตจะมีแนวโน้มไปในทางไหน

Rolex GMT-Master II
กลับมาอีกครั้งกับสาย Oyster ในรุ่น GMT-Master II ที่ทำให้ได้เห็น "Batman Return" ขอบหน้าปัด Cerachrom สีน้ำเงิน-สีดำ อีกครั้ง หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกการผลิตไปแล้วในปี 2019 ส่วน GMT-Master II รุ่น Pepsi หน้าปัดน้ำเงิน-แดง ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นการแมตช์สาย Oyster เข้ากับหน้าปัด Pepsi เนื่องจากก่อนหน้านี้ Pepsi จะมาพร้อมกับสาย Jubilee มาโดยตลอด แต่ในครั้งใหม่นี้ถูกจับคู่กับสาย Oyster ที่มาพร้อมขนาดเท่าเดิม 40 มิลลิเมตร แต่ตัวเครื่องจะเป็นแบบใหม่คือ Calibre 3285 ที่มีความแม่นยำมากขึ้น และสามารถสำรองพลังงานได้มากขึ้นถึง 70 ชั่วโมง

Rolex Oyster Perpetual Datejust
Oyster Perpetual Datejust ref.126200 เป็นเวอร์ชันใหม่ของ Datejust ขนาด 36 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเขียวมะกอกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พื้นหน้าปัดลวดลายต้นปาล์มที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากป่าเขตร้อน รังสรรค์ด้วยมืออย่างประณีตตามมาตรฐานของ Rolex ตัวเรือนทำจาก Oystersteel จับคู่กับสายวัสดุเดียวกัน หน้าต่างวันที่อยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ทำงานด้วยกลไก Calibre 3235 ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีชั้นนำในการผลิตนาฬิกา สำรองพลังงานได้สูงสุด 70 ชั่วโมง และกันน้ำได้ 100 เมตร

Tudor Black Bay Fifty-Eight 18K
นาฬิการุ่นเรือธงสำหรับคอลเลกชัน Black Bay Fifty-Eight เป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่นำทองมาผลิตเป็นตัวเรือน ตัวเรือนใช้วัสดุ Yellow Gold 18K ขนาด 39 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเขียวและขอบ Bezel Yellow Gold 18K กับ Aluminum Anodized Insert ชุดเข็มและหลักชั่วโมงวัสดุ Yellow Gold เคลือบสารเรืองแสง Super Luminova ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre MT5400 และสามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 70 ชั่วโมง

Vacheron Constantin Metiers d'Art Tribute to Great Explorers
ทางแบรนด์จึงได้ปิดตัว Metiers d'Art Tribute to Great Explorers ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแผนที่ Miller Atlas ซึ่งการทำสำเนาภาพวาดถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์การเดินเรือโปรตุเกส มีทั้งหมด 3 เวอร์ชัน ใช้วัสดุเดียวกันแต่ต่างกันที่ลวดลายหน้าปัดจะเป็นแผนที่เดินทางที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นการรำลึกถึงนักสำรวจชาวโปรตุเกสในศตวรรษที่ 15 ที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปยังหมู่เกาะต่าง ๆ

Jaeger-LeCoultre Reverso Hybris Mechanica Calibre 185
Reverso ครบรอบ 90 ปี JLC จึงจัดเซอร์ไพรส์ยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัว Jaeger-LeCoultre Reverso Hybris Mechanica Calibre 185 นาฬิกาสี่หน้าปัดเรือนแรกของโลกและเป็น Reverso ที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา! ที่มาพร้อมฟังก์ชันชั้นสูงที่มากถึง 11 ชนิดไว้ด้วยกัน ตัวเรือนทำจาก White gold 18K ขนาด 51.2 x 31 มิลลิเมตร หนา 15.15 มิลลิเมตร จับคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 185 สำรองพลังงานได้สูงสุด 50 ชั่วโมง ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือนเท่านั้น
ใครชอบนาฬิการุ่นไหนคอมเมนต์มาได้เลย หรืออยากให้เรารีวิวนาฬิการุ่นไหนเป็นพิเศษแนะนำมาได้นะคะ
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร