6 เรือนแห่งตำนาน ที่ออกแบบโดย Gérald Genta
Gérald Genta คือตำนานนักออกแบบนาฬิกาข้อมือที่มีผู้คนรู้จักอย่างมากมาย เนื่องจากผลงานของเขาเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก มีการสร้างนาฬิกาที่โดดเด่นที่สุดในโลกของนาฬิกา โดยทำงานร่วมกับแบรนด์ Omega, Audemars Piguet, Patek Philippe, Rolex, Cartier และ Bvlgari ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่านาฬิกาของเขากลายเป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพของแบรนด์นั้น ๆ และนาฬิกา 6 เรือนที่เราจะมานำเสนอนี้ ล้วนเป็นผลงานสุดคลาสสิกของ Gérald Genta
Omega Constellation
Genta กับฉายานักออกแบบดวงดาว
ในปี 1959 ทาง Omega ขอให้ Gerald Genta มาปรับปรุงการออกแบบนาฬิกาเพื่อจะได้ต่ออายุนาฬิกาคอลเลคชั่น Constellation ให้อยู่ต่อไปได้ ซึ่ง Genta ก็ทำสำเร็จโดยการออกแบบนาฬิกา Omega Constellation Ref. 168.005 ที่โดดเด่น เป็นนาฬิกาข้อมือที่หรูหราทำด้วยทองคำ ซึ่งคุณสมบัติเหมือนกับรุ่นทองคำทั้งหมดของ Omega แต่มีราคาที่ต่ำกว่าเล็กน้อย มีสัดส่วนที่เรียบง่ายและคลาสสิก Constellation นี้มาพร้อมกับฝาหลังที่มีโลโก้ Constellation ที่เป็นลายเซ็น ใช้ Caliber 561 และ Movement มีสีทองแดงสวยงาม เป็นนาฬิกาที่มีความวินเทจเป็นอย่างมาก ทำให้ Omega ได้รับการจัดอันดับต้น ๆ มาหลายปีแล้ว เป็นผลมาจากการออกแบบของ Gerald Genta นอกจากนี้ก็ทำให้ชื่อเสียง Genta โด่งดังขึ้นไปอีก และคนมากมายก็มองว่า Genta เป็น “นักออกแบบดวงดาว”
Rolex King Midas
Genta ผลงาน Rolex ที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคย
Rolex King Midas ref. 9630 นาฬิกาเรือนนี้ไม่เพียงแต่ถูกออกแบบโดย Gerald Genta แต่ยังถูกสวมใส่โดยดาราที่มีชื่อเสียงอีกด้วย เปิดตัวในปี 1960 ชื่อของนาฬิกา Rolex King Midas มาจากราชาไมดาสในตำนานเทพเจ้ากรีก ซึ่งมีความสามารถในการเปลี่ยนทุกสิ่งที่เขาสัมผัสให้เป็นทองคำ และถือว่าเป็นนาฬิกา Rolex ที่มีราคาแพงที่สุดในขณะนั้น สร้างขึ้นจากบล็อกทองคำ 18k มีน้ำหนักระหว่าง 150 ถึง 200 กรัม! ตัวเรือนมีลักษณะเป็นรูปห้าเหลี่ยมขนาด 28 มม. ตำแหน่งเหลี่ยมจะอยู่ทางซ้ายมือ หน้าปัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสที่มีเข็มชั่วโมงคู่และเข็มนาที และตัวอักษรกรีกสลักว่า“ Midas” อยู่ด้านล่างตรงกลางหน้าปัด ส่วนสายนาฬิกามีร่องแนวนอนและมีน้ำหนักอย่างมาก เนื่องจากทำมาจากทองคำ 18k yellow ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นหรูของนักออกแบบระดับโลกอย่าง Genta เลยทีเดียว
Audemars Piguet Royal Oak
Genta เปิดตำนาน Luxury sport watch
ในปี 1971 ด้วยความที่แบรนด์ Audermars Piguet ต้องการให้นาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่นี้ออกมามีหน้าตาที่ดูโดดเด่นและแปลกตากว่ารุ่นอื่นๆ ทางแบรนด์จึงเลือก “Gerald Genta” นักออกแบบนาฬิกาตัวท็อประดับโลก ให้มาออกแบบนาฬิกาให้ Gerald Genta ร่างแบบนาฬิกา Royal Oak ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากหมวกดำน้ำ กรอบหน้าปัดเป็นทรงแปดเหลี่ยม มีตัวน็อตทรงหกเหลี่ยมทำจากทองประดับอยู่ทุกมุมบนหน้ากรอบหน้าปัด มีความสามารถกันน้ำ และหน้าปัดสีน้ำเงินที่ใช้เทคนิค petit tapisserie ขนาดของนาฬิกามีความบางเพียง 7 มม. แต่ยังคงดูใหญ่เนื่องจากมีตัวเรือนและกรอบหน้าปัดขนาด 39 มม. ส่วน Movement ภายในใช้เป็น Calibre 2120 ที่เป็นการร่วมมือพัฒนากับ Jaeger-LeCoultre และยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบันกับรุ่น Royal Oak Jumbo Ref. 15202
Bvlgari Octo
Genta กับคอลเลกชั่นของตัวเอง
ในอดีตนั้น Gérald Genta ได้ทำแบรนด์ของตนขึ้นมา แล้วออกแบบนาฬิกาคอลเล็คชั่น Octo Bi-Retro ในปี 1975 แต่ในภายหลัง BVLGARI ได้ซื้อบริษัทของ Gérald Genta ไป ทำให้หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าผลงานการออกแบบ Bvlgari Octo มาจากนักออกแบบมืออาชีพคนนี้เอง
Genta ได้ออกแบบนาฬิกาด้วยการเพิ่มเส้นขีด ๆ ลงบนตัวเรือนให้เป็นรูปทรงที่ล้ำสมัย ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากเหรียญโรมันโบราณ และได้ทำการแกะสลักชื่อตัวเองไว้บนขอบ Bezel แต่ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบตัวเรือนที่รูปทรงดูสปอร์ตแปดเหลี่ยม ถึงแม้ว่า Bvlgari จะกังวลกับการตอบรับในรูปทรงที่ล้ำสมัยนี้ แต่ท้ายที่สุดผลงานนี้ก็ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของ Bvlgari ตลอดมา
Patek Philippe Nautilus
Genta กำเนิดคู่แข่งในตลาด Luxury sport watch
เปิดตัว Nautilus ในปี 1976 ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อเรือดำน้ำของกัปตันนีโม่ (Captain Nemo) ตัวละครในนวนิยายที่โด่งดังในยุคนั้น ซึ่งในการออกแบบนั้น Genta ใช้เวลาในการร่างแบบเรือนแรกเพียงแค่ 5 นาที ก่อนจะกลายมาเป็น “The Original 3700 Nautilus” ถูกออกแบบมาให้เป็น Sport Watch ที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยกรอบหน้าปัดทรง 8 เหลี่ยมที่ Genta ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหน้าต่างของเรือ และหูนูนออกมาจากตัวเรือนในตำแหน่งเลข 3 และเลข 9 ทำให้นึกถึงบานพับของหน้าต่าง หน้าปัดทำจากทอง สีน้ำเงินอมดำเหมือนสีของน้ำทะเลลึก ลายนูนพาดขวาง (Horizontal Groves) และบนพื้นหน้าปัดได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของนาฬิกาคอลเลคชั่น Nautilus ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Cartier Pasha
Genta กับการอัปเดต Pasha
ในปี 1985 ทาง Cartier ได้ตัดสินจ้าง Gerald Genta ให้มาออกแบบ Pasha ซึ่ง Cartier ก็ชี้แจงไว้ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการให้ Pasha มีความล่ำสำและกันน้ำได้อย่างเต็มตัวโดยไม่ทิ้งความงามตามแบบฉบับ Cartier ผลที่ได้คือนาฬิกาทรงกลมหน้าปัดเส้นตารางขนาด 38 มม. มาร์กเกอร์เป็นตัวเลขอารบิก เคสแบบ Screwed-down และมีการใช้ “ฝา” (cap) ในการปกป้องเม็ดมะยม ซีรีส์ Pasha ได้รับการอัพเกรดอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหน้าปัดและเพิ่มฟังก์ชั่นเจ๋ง ๆ อย่าง Tourbillon ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นการอัพเกรดก็คือปี 2011 น่าเสียดายที่ Pasha ไม่บูมเท่า AP และ PP ซึ่งเหตุผลหลักอาจเป็นเพราะขาดดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา AP Royal Oak มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe Nautilus มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่
Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck muller ได้ที่นี่
