Blancpain ส่งท้ายปี 2022 ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่สุดพิเศษ

Blancpain แบรนด์นาฬิกาหรูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดแสดงนาฬิกาภายใต้คอนเซ็ปต์ Blancpain Chronograph Maestro โดยนำนาฬิกา Novelties ปี 2022 และนาฬิกาสุดพิเศษที่มีเพียงไม่กี่เรือนในโลก มาจัดแสดงให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด อีกทั้งแบรนด์ยังได้เลือกใช้ห้องบริพัตร ชั้น 37 ของโรงแรม เดอะ เพนนินซูลา กรุงเทพฯ ที่มีการตกแต่งบรรยากาศราวกับอยู่บนเครื่องบิน และยังมีลานจอดสำหรับเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย ซึ่งเข้ากับธีมของงานและสอดคล้องกับ การเปิดตัว Air Command ปี 2022 นาฬิกานักบินของแบรนด์ Blancpain ได้เป็นอย่างดี

โดยงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก Mr. Jalil El Kouch-Bordier ผู้บริหารของ Blancpain และคุณกฤษณ์ ภีมะโยธิน Brand Manager of Blancpain ประเทศไทย มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

คอลเลกชัน Air Command สยายปีกสู่น่านฟ้าใหม่

Blancpain (บลองแปง) เสริมทัพนาฬิการุ่นใหม่ในคอลเลกชัน Air Command (แอร์คอมมานด์) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนึ่งในนาฬิกา Chronograph (จับเวลา) ระดับตำนาน โดยเรือนเวลารุ่นใหม่นี้มาพร้อมตัวเรือนขนาด 36.2 มิลลิเมตร ที่ถึงแม้จะมีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติของนาฬิกา Chronograph ระดับสูง

สำหรับ Blancpain แล้วนั้น เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี ถือได้ว่าเป็นกลุ่มนาฬิกาที่มีความพิเศษ เพราะตั้งแต่ช่วงต้นยุค 1930 แบรนด์ Blancpain ได้พัฒนากลไก และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับสุภาพสตรีมาอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 1998 แบรนด์ Blancpain ยังเป็นแบรนด์แรกที่นำเสนอกลไก Flyback Chronograph ให้กับสุภาพสตรีอีกด้วย และแม้ว่าในปัจจุบันกลไกนี้จะถูกบรรจุอยู่ในนาฬิกาหลาย ๆ รุ่นของ Blancpain แล้วก็ตาม แต่นาฬิการุ่น Air Command ยังถือได้ว่ามีความสดใหม่ด้วยลุคสปอร์ตที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์

คอลเลกชัน Air Command นั้น มีกลิ่นอายความวินเทจที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Blancpain ระบบ Chronograph สุดหายากจากยุค 1950 โดยการจัดวางตำแหน่งของหน้าปัดย่อยจับเวลา และสเกล Tachymeter บนหน้าปัด รวมไปถึงลักษณะของเข็มบอกเวลาเรืองแสง และหลักชั่วโมง ปุ่มกดจับเวลาทรง Piston (ลูกสูบ) รวมไปถึงกระจกแซฟไฟร์แบบ Glassbox ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากนาฬิการุ่นดั้งเดิม

เรือนเวลา Air Command รุ่นใหม่นี้ มีระบบสำหรับจับเวลาสองระบบ ได้แก่ ระบบ Flyback Chronograph และขอบนาฬิกาหมุนได้สำหรับจับเวลาถอยหลัง ซึ่งตรงตามตำรับนาฬิกานักบินในอดีตที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม นาฬิการุ่นนี้ยังคงรากฐานของยุคศตวรรษที่ 21 ไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีหน้าปัดเฉดสีน้ำเงินและขอบหน้าปัดเซรามิกที่ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัย รวมไปถึงความสง่างามด้วย อีกทั้งยังแสดงออกถึงความประณีตด้วยการใช้เทคนิค Sunburst และการแกะลวดลายก้นหอยบนพื้นผิวของหน้าปัด รวมไปถึงงานขัดลายซาติน และงานขัดเงาบนตัวเรือน มาพร้อมกลไกสุดล้ำที่อยู่ภายใต้ตัวเรือนขนาด 36.2 มิลลิเมตร

โดยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติรหัส F188B มาพร้อม Vertical Clutch ที่ช่วยให้การทำงานของเข็มวินาทีจากระบบ Chronograph มีความราบรื่น อีกทั้งกลไกนี้ยังใช้ Silicon Balance-Spring รวมไปถึงระบบ Column-Wheel ที่ช่วยให้สัมผัสอันนุ่มนวลเมื่อกดเริ่มหรือหยุดจับเวลา และการกดรีเซตศูนย์เพื่อเริ่มจับเวลาครั้งใหม่ ส่วนด้านหลังของเรือนเวลาเผยให้เห็นถึงความงดงามของกลไกชั้นสูง และตุ้มเหวี่ยงแบบเปิดที่ขัดตกแต่งด้วยเทคนิคอันหลากหลาย อาทิ ลวดลายเส้นริ้ว การขัดแต่งขอบ และลวดลายก้นหอย

นาฬิการุ่น Air Command ที่เปิดตัวใหม่ในปี 2022 นี้ จะมาพร้อมกับตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 23 ซึ่งถือว่าเป็นเกรดพิเศษที่แทบไม่เคยถูกนำมาใช้ในการประดิษฐ์นาฬิกา ส่วนอีกรุ่นจะเป็นตัวเรือนเรดโกลด์ จับคู่มากับสายหนังลูกวัวสีน้ำเงินเดินด้ายสีขาว ซึ่งนวัตกรรมเรือนเวลารุ่นใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของ Blancpain ที่ต้องการจะนำเสนอเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรีในทุกคอลเลกชัน และพร้อมแล้วที่จะไปประดับอยู่บนข้อมือของผู้หาญกล้าทุกคน

เฉดสีและวัสดุใหม่สำหรับ Fifty Fathoms Bathyscaphe Flyback Chronograph

ในปี 2022 Blancpain (บลองแปง) มุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวรูปลักษณ์ใหม่ของเรือนเวลารุ่น Fifty Fathoms Bathyscaphe (ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ บาธีสเคป) ด้วยการใช้วัสดุเรดโกลด์ และไทเทเนียมเกรด 23 โดยครั้งนี้ได้นำเสนอผ่านโมเดล Flyback Chronograph (ฟลายแบ็ค โครโนกราฟ) ซึ่งถือเป็นโมเดลที่โดดเด่นในไลน์ของ Bathyscaphe มาเป็นเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษ

สำหรับฟังก์ชัน Flyback Chronograph ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของไลน์ Bathyscaphe ยุคใหม่ในปี 2014 และถือเป็นคอมพลิเคชันแรกที่ถูกติดตั้งในโมเดล “Urban Diver” ของ Blancpain และในวันนี้ถึงเวลาที่ทางแบรนด์ได้หันกลับมายังรุ่น Fifty Fathoms Bathyscaphe Flyback Chronograph อีกครั้ง โดยกลไก Calibre F385 ถือเป็นหนึ่งในกลไก Chronograph ที่โดดเด่นที่สุดของอุตสาหกรรมนาฬิกา และเป็นหนึ่งในกลไก Chronograph ล่าสุดจากสายการผลิตกลไกของ Blancpain ซึ่งเต็มไปด้วยนวัตกรรม “ครั้งแรกของโลก” ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลา 30 ปีที่ผ่านมา

กลไก In-House รุ่นนี้มีระบบ Vertical Clutch เพื่อทำให้ฟังก์ชัน Chronograph ทำงานได้อย่างราบรื่น ขจัดปัญหาการกระตุกของเข็มวินาทีสำหรับจับเวลาได้เป็นอย่างดี มี Column Wheel ที่ช่วยทำให้การกดปุ่มสำหรับการเริ่ม การหยุด และการรีเซตระบบจับเวลาเป็นไปได้อย่างราบรื่นและนุ่มนวล โดยกลไก F385 ทำงานด้วยความถี่ระดับ 5 เฮิรตซ์ ส่งผลให้การจับเวลามีความแม่นยำสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกลไกที่ทำงานด้วยความถี่ในระดับที่ต่ำกว่า อีกทั้งมีการใช้ Inertia-Regulated Balance Wheel จาก Silicon Balance Spring ที่ช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการจับเวลาเป็นไปได้อย่างไร้ที่ติ

นาฬิกา Fifty Fathoms Bathyscaphe Flyback Chronograph ปี 2022 ทั้งสองรุ่นนี้ต่างก็ช่วยเพิ่มมิติความงามใหม่ให้กับคอลเลกชัน เวอร์ชันเรดโกลด์ที่มาพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินทำให้เกิดลุคที่โดดเด่นบนข้อมือ ในขณะที่เวอร์ชันไทเทเนียมเกรด 23 เต็มไปด้วยความสุขุมนุ่มลึกผ่านการจับคู่กับหน้าปัดสีแอนทราไซต์

ไม่ว่าจะเป็นโมเดลเรดโกลด์หรือไทเทเนียม หน้าปัดนาฬิกาก็ถูกตกแต่งด้วยเทคนิค Sunburst พร้อมลวดลายก้นหอยบริเวณวงจับเวลาของ Chronograph เพื่อทำให้หน้าปัดเต็มไปด้วยมิติทั้งเชิงลึกและความชัดตัดกัน โดยเรือนเวลา Bathyscaphe Flyback Chronograph ใหม่นี้ ยังถูกล้อมด้วยขอบหน้าปัดเซรามิกหมุนได้ทิศทางเดียว ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของไลน์ Bathyscaphe ยุคใหม่ โดยขอบสีน้ำเงินในเวอร์ชันเรดโกลด์มีลักษณะมันวาวพร้อมสเกลจับเวลา Ceragold™ ในขณะที่ขอบสีแอนทราไซต์ของเวอร์ชันไทเทเนียมถูกขัดด้านลายซาตินพร้อมสเกลจับเวลา Liquidmetal™

ตัวเรือนของนาฬิกาทั้งสองแบบมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร และมีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำระดับ 30 บาร์ หรือ 300 เมตร ถูกจับคู่มากับสาย NATO หรือสายผ้าใบที่มีสีเหมือนกับสีของหน้าปัด ส่วนสายผ้าใบของตัวเรือนเรดโกลด์มีตัวเลือกที่ล็อกสายให้เลือกระหว่างแบบหัวเข็มขัดหรือแบบบานพับ ส่วนตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 23 ยังมีสายไทเทเนียมให้เลือกด้วย

ต้อนรับสองสไตล์ใหม่ของ Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet

Blancpain (บลองแปง) นำเสนอการตีความแบบใหม่ของ Fifty Fathoms Bathyscaphe Quantième Complet (ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ บาธีสเคป กวองเตียม กอมพเลท์) ในสองรูปลักษณ์ ได้แก่ เวอร์ชันเรดโกลด์จับคู่กับปัดสีน้ำเงินไล่เฉด และเวอร์ชันไทเทเนียมจับคู่กับหน้าปัดสีแอนทราไซต์ ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เรือนเวลารุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ได้หลอมรวมสัญลักษณ์ของ Blancpain ทั้งสองมิติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ได้แก่ ดีเอ็นเอความสปอร์ตของนาฬิกาดำน้ำ Fifty Fathoms และฟังก์ชัน Complete Calendar พร้อม Moon Phase แบบดั้งเดิม

นาฬิการุ่น Bathyscaphe ถูกรังสรรค์ขึ้น พร้อมเป้าหมายที่จะเป็นนาฬิกาดำน้ำที่มีขนาดเหมาะสมสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และผ่านการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปี 2013 ที่ Blancpain ได้ทำการตีความขึ้นมาใหม่อีกครั้งในวาระที่ Fifty Fathoms มีอายุครบรอบ 60 ปี

ด้วยความที่นาฬิการุ่น Bathyscaphe Quantième Complet เป็นการรวมกันของความสปอร์ตเข้ากับฟังก์ชันบอกวัน เดือน และวันที่ ยิ่งตอกย้ำหลักแนวคิดในการเป็นเรือนเวลาสำหรับใช้งานได้ในทุกโอกาสตามที่นาฬิกา Bathyscaphe รุ่นแรกถูกผลิตขึ้น โดยบนหน้าปัดยังเติมแต่งด้วยหน้าต่าง Moon Phase ขนาดใหญ่ที่ตำแหน่งหกนาฬิกา มาพร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ 6654.P และเป็นดั่งเช่นทุกครั้งที่ Blancpain ได้ติดตั้งระบบป้องกันลงไปที่กลไกวันที่ ทำให้เจ้าของนาฬิกาสามารถปรับฟังก์ชันได้ในทุกช่วงเวลา โดยปราศจากความเสี่ยงที่จะทำให้กลไกเกิดความเสียหาย ซึ่งแตกต่างกับนาฬิกาที่มีฟังก์ชันปฏิทินโดยทั่วไป

นาฬิกา Bathyscaphe Quantième Complet รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมหน้าปัดขนาด 43 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำได้ในระดับ 30 บาร์ หรือ 300 เมตร มีตัวเรือนขัดลายซาตินทั้งหมดสองเฉดสี ได้แก่ เรดโกลด์ และไทเทเนียมเกรด 23 โดยรุ่นเรดโกลด์จะจับคู่กับหน้าปัดสีน้ำเงินไล่เฉดแบบ Sunburst ที่พร้อมเล่นกับแสงไฟอยู่เสมอ ติดตั้งด้วยหลักชั่วโมง เข็ม และพระจันทร์ทองคำเข้ากับสีของตัวเรือน หน้าปัดถูกล้อมด้วยขอบจับเวลาหมุนได้ทิศทางเดียวที่ทำจากวัสดุเซรามิกสีน้ำเงิน พร้อมขีดบอกเวลาจากวัสดุ Ceragold™ สีสันที่เข้ากันกับวัสดุยังรวมไปถึงด้านหลังของเรือนเวลาที่เผยให้เห็นตุ้มเหวี่ยงทองคำเรดโกลด์

ในขณะที่รุ่นไทเทเนียมนั้นแตกต่างด้วยเฉดสีเทาน่าค้นหา หน้าปัดสีแอนทราไซต์แบบ Sunburst ถูกตกแต่งด้วยหลักชั่วโมงทองคำ พร้อมเข็มบอกเวลา และพระจันทร์เคลือบโรเดียม มีขอบหน้าปัดเซรามิกสีแอนทราไซต์ขัดลายซาตินทำให้เกิดความแมตต์ด้านแลดูร่วมสมัย ทั้งยังมีการใช้ Liquidmetal™ สำหรับทำขีดบอกเวลา ตุ้มเหวี่ยงทองคำสำหรับรุ่นไทเทเนียมนั้นผ่านกระบวนการเคลือบ NAC เฉดแอนทราไซต์เพื่อให้ได้ลุคที่ดูสปอร์ตเต็มพลัง

นาฬิกา Bathyscaphe Quantième Complet ตัวเรือนเรดโกลด์มีให้เลือกเข้าคู่กับสายนาโต้หรือสายผ้าใบสีน้ำเงิน ทั้งนี้สำหรับสายผ้าใบนั้นยังมีตัวเลือกที่ล็อคสายให้เลือกระหว่างแบบหัวเข็มขัดหรือแบบบานพับ ในขณะที่ตัวเรือนไทเทเนียมมีให้เลือกเข้าคู่กับสายไทเทเนียมหรือสายนาโต้หรือสายผ้าใบสีเทา