ทำความรู้จักคอลเลกชัน CODE 11.59 จาก Audemars Piguet

Selfwinding

CODE 11.59 Selfwinding Ref.15210

มาเริ่มที่รุ่นแรกกันเลย รุ่น Selfwinding มีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบแรกจะใช้วัสดุ Pink Gold หน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีน้ำเงินและสีม่วง แบบที่สองตัวเรือนจะเป็นทูโทน Pink Gold กับ White Gold หน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีเทาและดำ ส่วนแบบสุดท้ายตัวเรือนเป็น White Gold หน้าปัดสี Burgundy หรือสีแดงเข้มคล้ายไวน์ ซึ่งเราจะขอหยิบรุ่น Pink Gold มาอธิบาย

ตัวเรือนขนาด 41 มม. มีความหนา 10.7 มม. ตัวเรือนแปดเหลี่ยมตรงกลางทำจาก Pink Gold 18K ส่วนขอบตัวเรือน, ตัวเรือนด้านหลัง, และขานาฬิกาทำจาก White Gold กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ 2 ชั้นทรงโดม ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เกิดมิติเมื่อมองมากจากมุมต่าง ๆ อีกหนึ่งความพิเศษคือ โลโก้ 3 มิติของ Audemars Piguet เกิดจากการนำทองแผ่นบางมาซ้อนกันหลายชั้น ผ่านกระบวนการทางเคมีคล้ายการทำ 3-D Printing โดยตัวอักษรแต่ละตัวจะถูกเชื่อมไว้ด้วยทองที่มีความบางเทียบเท่ากับเส้นผม ก่อนจะประดับลงบนพื้นหน้าปัดด้วยมืออย่างประณีต ด้านหลังตัวเรือนเปือยโชว์ให้เห็นกลไกการทำงาน หน้าปัดเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีเทาทำให้ดูสว่างมากขึ้น แล้วขัดแต่งด้วยลวดลาย Sunray (ลายการแผ่รังสีของพระอาทิตย์) เข็มนาฬิกา (3 เข็ม) และหลักชั่วโมงทำจาก Pink Gold โดยหลักชั่วโมงเป็นแบบขีด และแบบตัวเลขที่ตำแหน่ง 3, 6, 9 และ 12 นาฬิกา มีหน้าต่างวันที่อยู่ระหว่างตำแหน่ง 4 - 5 นาฬิกา จับคู่มากับสายหนังจระเข้สีเทาที่เย็บตะเข็บด้วยมือพร้อมหัวเข็มขัด White Gold 18K

ทำงานด้วยกลไกไขลาน Calibre 4302 เป็น In-House รุ่นล่าสุดที่ทางแบรนด์พัฒนาขึ้นมา ประกอบด้วยชิ้นส่วน 257 ชิ้น ตัวโรเตอร์ทำจากทอง 22K พร้อมการขัดแต่งอย่างสวยงาม ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานได้สูงสุด 70 ชั่วโมง ส่วนราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 800,000 บาท

Selfwinding Chronograph

CODE 11.59 Selfwinding Chronograph Ref. 26393

มาต่อกันที่รุ่น Selfwinding Chronograph มีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบแรกตัวเรือน White Gold หน้าปัดสี Burgundy หรือสีแดงเข้มคล้ายไวน์ แบบที่สองตัวเรือนทูโทน Pink Gold กับ White Gold หน้าปัดสีเทาสว่าง และแบบที่สามตัวเรือนจะเป็น Pink Gold หน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีน้ำเงินกับสีม่วง ซึ่งเราจะขอหยิบรุ่น Pink Gold มาอธิบาย

นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟแบบครบวงจรเครื่องแรก มีตัวเรือนขนาด 41 มม. มีความหนา 12.6 มม. ตัวเรือนแปดเหลี่ยมตรงกลางทำจาก Pink Gold 18K ส่วนขอบตัวเรือน ตัวเรือนด้านหลังและขานาฬิกาทำจาก White Gold หน้าปัดเคลือบแล็กเกอร์สีเทาดำสวยงาม หลักชั่วโมงเป็นแบบขีด และแบบตัวเลขที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา มีหน้าปัดย่อยจับเวลาร่วมกับเข็มวินาทีหลักที่ตำแหน่ง 3, 6 และ 9 นาฬิกา ล้อมรอบด้วยเส้นทองที่ถูกขัดแต่งแบบ V angles (ถือว่าเป็นเทคนิคที่ทำได้ยากบนพื้นหน้าปัดแล็กเกอร์)

ทำงานด้วยกลไกไขลานโครโนกราฟชุดใหม่ Calibre 4401 เป็น In-House ประกอบด้วยชิ้นส่วน 367 ชิ้น มาพร้อมคุณสมบัติจับเวลาแบบ Column Wheel พร้อมฟังก์ชั่น Flyback ที่ช่วยให้เริ่มจับเวลาครั้งใหม่โดยไม่ต้องหยุดและรีเซ็ทเข็มเวลา ร่วมกับระบบเปลี่ยนวันที่แบบ Instant-Jump ที่เป็นเหมือนการดีดหรือกระโดดอย่างรวดเร็ว และสามารถสำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 1,272,000 บาท

Perpetual Calendar

CODE 11.59 Perpetual Calendar Ref.26394

มาดูกันที่รุ่นนี้ต่อ ที่มีให้เลือกแค่รูปแบบเดียวเท่านั้น ตัวเรือนขนาด 41 มม. มีความหนา 10.9 มม. ตัวเรือนทำจาก Pink Gold 18K มีการขัดแต่งอย่างประณีตและสวยงาม หน้าปัดทำจากหินอเวนเจอรีน (Aventurine) สีน้ำเงิน คล้ายกับแสงระยิบระยับราวกับหมู่ดาวยามค่ำคืน ส่วนหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาทำจาก Pink Gold จุดเด่นอยู่ที่หน้าปัดย่อย 3 อันที่ตำแหน่ง 3, 9 และ 12 นาฬิกา เพื่อแสดงวันที่, วัน, และเดือน นอกจากนี้แล้วที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาก็มีหน้าต่างไว้สำหรับการแสดงมูนเฟส ตัวเรือนด้านหลังเปือยเพื่อให้เห็นกลไกการทำงานได้อย่างชัดเจน มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินที่เข้าคู่กับหน้าปัดได้เป็นอย่างดี

ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ เป็น In-house Calibre 5134 ประกอบด้วยชิ้นส่วน 374 ชิ้น เดินด้วยความถี่ 19,800 ครั้งต่อชั่วโมง มาพร้อมระบบปฏิทินถาวร แสดงวัน วันที่ เดือน และปีอธิกสุรทินได้อย่างเที่ยงตรง ถ้าสวมใส่เป็นประจำก็ไม่ต้องปรับจนถึงปี ค.ศ. 2100 สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 40 ชั่วโมง ราคาเปิดตัวประมาณ 2,200,000 บาท

Selfwinding Flying Tourbillon

CODE 11.59 Selfwinding Flying Tourbillon Ref.26396

รุ่นนี้มาพร้อมตัวเลือก 2 รูปแบบ คือ แบบแรกตัวเรือนทั้งหมดทำจาก Pink Gold หน้าปัดกรองด์ เฟอ อีนาเมล (Grand Feu Enamel) สีดำ ส่วนแบบที่สองตัวเรือนทั้งหมดทำจาก White Gold 18K หน้าปัดอีนาเมลสีน้ำเงินขอบดำ ซึ่งเราจะขอหยิบรุ่น White Gold 18K มาอธิบาย

ตัวเรือนขนาด 41 มม. มีความหนา 11.8 มม. ตัวเรือนทั้งหมดทำจาก White Gold 18K หน้าปัดอีนาเมลสีน้ำเงินขอบดำ ที่ผลิตด้วยเทคนิคกรองด์ เฟอ อีนาเมล (Grand Feu Enamel) ที่ซับซ้อนที่สุดแบบหนึ่งด้วยการเผาหน้าปัดที่ความร้อนสูงถึง 800 ºC เพื่อให้ได้เฉดสีที่ต้องการ ความท้าทายอีกอย่างคือ เมื่อนำหน้าปัดออกจากเตาอบแล้วความร้อนที่ตกค้างจะทำให้สีหน้าปัดเปลี่ยนจนกระทั่งหน้าปัดเย็นตัวลง ซึ่งขั้นตอนนี้จำเป็นต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมากเพื่อให้ได้หน้าปัดสีที่ต้องการออกมา การผลิตหน้าปัดด้วยเทคนิคนี้ทำให้ได้หน้าปัดที่มีความแวววาวและสีก็จะอยู่ได้อย่างยาวนาน ส่วนโลโก้ AP ในรุ่นนี้ไม่ได้ผลิตเหมือนกับรุ่นอื่นแต่ใช้การเคลือบอีนาเมลแทน เข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงทำจาก White Gold ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกามีการเผยให้เห็นการทำงานของ Flying Tourbillon ได้อย่างชัดเจน จับคู่กับสายหนังจระเข้สีเดียวกับหน้าปัด

ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติชุดใหม่ Calibre 2950 ประกอบด้วยชิ้นส่วน 270 ชิ้น ขัดแต่งชิ้นส่วนกลไกด้านหลังด้วยลาย Côtes de Genève อย่างพิถีพิถัน ขณะที่ชิ้นส่วนกลไกฝั่งเดียวกับพื้นหน้าปัดมีการขัดแต่งแบบ Circular Graining และ Circular Satin นับเป็นครั้งแรกของ Audemars Piguet ที่ผลิตกลไกไขลานอัตโนมัติที่ขึ้นลานด้วย Central Rotor พร้อมกับ Flying Tourbillon ราคาเปิดตัวประมาณ 3,870,000 บาท

Tourbillon Openworked

CODE 11.59 Tourbillon Openworked Ref.26600

มาดูต่อที่รุ่นหน้าปัดแบบเผยกลไก ซึ่งรุ่นนี้มีให้เลือกแบบเดียวเท่านั้น ตัวเรือนทั้งหมดทำจาก Pink Gold 18K ขนาด 41 มม. มีความหนา 10.7 มม. โดดเด่นด้วยหน้าปัดสเกเลตัน เคลือบแล็กเกอร์สีดำโทนเข้ม เผยให้เห็นกลไกภายในที่มีความสวยงามแต่กลับซ่อนการทำงานที่ซับซ้อนเอาไว้ ชิ้นส่วนสเกเลตันทุกชิ้นออกแบบมาให้มีความหนาและทนทาน เข็มนาฬิกาทำจาก Pink Gold ตัดกันเป็นอย่างดีกับโทนสีดำของหน้าปัด จับคู่มากับสายหนังจระเข้สีดำเช่นเดียวกับหน้าปัด

ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานแบบสเกเลตัน พร้อมฟังก์ชั่น Tourbillon Calibre 2948 ที่ทางแบรนด์พัฒนาขึ้นมา ประกอบด้วยชิ้นส่วนทั้งหมด 196 ชิ้น เมนเพลทและบริดจ์มาในโทนสีเข้มให้ความสวยงามราวกับศิลปะชั้นสูงที่เปี่ยมด้วยความสลับซับซ้อนที่ออกแบบขึ้นพิเศษสำหรับ CODE 11.59 โดยเฉพาะ ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง ราคาเปิดตัวประมาณ 5,250,000 บาท

Minute Repeater Supersonnerie

CODE 11.59 Minute Repeater Supersonnerie Ref.26395

ปิดท้ายด้วยรุ่นสุดพิเศษ Minute Repeater ตัวเรือนทั้งหมดทำจาก White Gold 18K ขนาด 41 มม. มีความหนา 13.5 มม. หน้าปัดเคลือบอีนาเมลสีน้ำเงินดูเรียบง่ายและสะอาดตา เช่นเดียวกับโลโก้ของ AP ก็มีการเคลือบอีนาเมล เข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงทำจาก White Gold โดยหลักชั่วโมงเป็นแบบขีด และแบบตัวเลขที่ตำแหน่ง 3, 9 และ 12 นาฬิกา มีหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เมื่อพลิกไปดูด้านข้างตัวเรือนที่บริเวณ 8 นาฬิกาจะเห็นฆ้องตีบอกเวลาที่ซ่อนอยู่ด้านข้างตัวเรือน ส่วนด้านหลังเป็นแบบทึบที่มีช่องเจาะไว้โดยรอบ เพื่อเพิ่มความก้องกังวานของเสียงบอกเวลา

ทำงานด้วยกลไกไขลาน Calibre 2953 ที่ทางแบรนด์จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว โครงสร้างตัวเรือนถูกออกแบบมาให้ตัดเสียงรบกวนออกไปได้เป็นอย่างดี ฆ้องตีบอกเวลาถูกยิดติดกับ Sound Board เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของเสียงที่ก้องกังวาลและชัดเจนยิ่งขึ้น ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานสูงสุดที่ 72 ชั่วโมง ราคาประมาณ 8,850,000 บาท