Rolex Sky-Dweller ความคุ้มค่าที่น่าลงทุนที่สุด
ใครจะรู้ว่า Rolex Daytona รุ่น 6263 นาฬิการาคาราว 7,000 บาท ที่ผู้คนต่างส่ายหน้าไม่สนใจ จะกลับกลายเป็นเรือนนาฬิกาที่มีค่าตัวเพิ่มขึ้นถึง 1,000 เท่า (ราคามือสองช่วง 1 – 7 ล้านบาทขึ้นอยู่กับรุ่น) เพียงเพราะว่า Paul Newman ดาราชื่อดังได้เลือกสวมใส่ถ่ายทำภาพยนตร์และใช้งานในชีวิตจริง คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถย้อนเวลาไปหาซื้อเจ้า 6263 ได้ เช่นเดียวกับเจ้า Rolex Sky-Dweller ที่ปัจจุบันเป็นนาฬิกา Sport ของ Rolex ที่ถูกประเมินค่าต่ำ ทำให้ราคายังจับต้องได้ แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะแรงขึ้น ฉะนั้นเรามาดูเรื่องราวของ Sky Dweller กันว่ามีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

Sky-Dweller คือโมเดลล่าสุดจาก Rolex
Sky-Dweller คือโมเดลล่าสุดจาก Rolex
เริ่มต้นสตอรี่ความน่าสนใจของ SKY-DWELLER เป็น “โมเดลรุ่นใหม่ล่าสุด” ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 (กินเวลาถึง 20 ปีนับตั้งแต่โมเดล YACHT-MASTER ได้ถูกสร้างมาเพื่อนักล่องเรือในปี 1992) นับว่าเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่จากทาง Rolex ที่อัดแน่นทุกนวัตกรรมลงไปในนาฬิกาเรือนนี้อย่างจุใจพร้อมด้วยหน้าปัดที่เรียบง่ายเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวและใช้ได้จริง โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อให้เป็นนาฬิกาที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

นาฬิกาที่ใช้เทคนิคเยอะที่สุดในการผลิต
นาฬิกาที่ใช้เทคนิคเยอะที่สุด
มาพูดถึงการใช้เทคนิคในการผลิตเยอะที่สุดกันบ้าง SKY-DWELLER ที่ขับเคลื่อนด้วย In-House Automatic Movement รุ่น Calibre 9001 เป็นกลไกที่มีความซับซ้อนที่สุดภายใต้การคุ้มครองสิทธิบัตรสูงสุดถึง 14 ฉบับ และยังเป็นกลไกตัวแรกอีกด้วยที่มีฟังก์ชั่น Annual Calendar ซึ่งสามารถบอกวันเดือนปีได้อย่างไม่ติดขัดและจำเป็นต้องตั้งเวลาใหม่เพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งความอัจฉริยะ ในการออกแบบหน้าปัดขนาด 42 นิ้วเรือนนี้ ก่อนอื่นเลย SKY-DWELLER มีหน้าต่างวันที่ที่มีเลนส์ Cyclops ที่สามารถมองดูตัวเลขวันที่ได้อย่างชัดเจนและตัวเลขนี้จะเปลี่ยนตอนเที่ยงคืน จุดถัดมา คือจุดสีแดงที่อยู่ตรงปลายมาร์คเกอร์ชั่วโมงนั้นมีไว้เพื่อใช้บอก “เดือน” เช่นเลข 8 ก็คือเดือนสิงหาคม ท้ายที่สุดคือวงแหวนบอกเวลาโซนที่ 2 ที่อยู่กลางหน้าปัดนั้นใช้บอกเวลาเป็นหน่วยชั่วโมงซึ่งบอกได้ถึง 24 ชั่วโมงเพื่อจะได้ทราบชัดเจนว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน

พลิกเกมด้วยรุ่น Steel
พลิกเกมด้วยรุ่น Steel
มาต่อกันที่ความน่าสนใจ ที่เปลี่ยนวัสดุแล้วตีตลาดได้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหายอดขายที่ซบเซา ทาง Rolex จึงได้ออกรุ่นใหม่เพิ่มอีก 3 รุ่นในปี 2014 เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น คือรุ่นที่ใช้วัสดุ Pink Gold, Yellow Gold, และ White Gold แต่ด้วยราคาที่ยังอยู่ในช่วงเดิม จึงไม่ได้ช่วยให้ยอดขายดีขึ้น สุดท้ายแล้ว Rolex จึงต้องออก SKY-DWELLER รุ่นวัสดุทองคำผสมกับ Oystersteel แทนในปี 2017 ซึ่งส่งผลให้ราคาตกลงจากช่วงหนึ่งล้านกลาง ๆ มาอยู่ที่ช่วง 500,000 – 600,000 บาทเท่านั้น ทำให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้มากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าปัดใหม่โดยเปลี่ยนมาร์คเกอร์ชั่วโมงจากแบบตัวเลขมาเป็นแบบแท่ง สำหรับกระแสตอบรับนั้นค่อนข้างดีในด้านของความคุ้มค่าเพราะราคา SKY-DWELLLER ในรุ่น Steel ผสมทองคำนั้นอยู่ในช่วงเดียวกับ Daytona รุ่น 116503 ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วนั้นก็ถือว่า SKY-DWELLER คุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ เพราะมีกลไกที่ใหม่และดีกว่า Daytona ทุกด้าน ซึ่งตอนนี้ผู้คนก็เริ่มเข้ามาสนใจนาฬิการุ่นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ราคาที่น่าลงทุน
ปิดท้ายด้วยความคุ้มค่าในราคาที่น่าลงทุน
ช่วงราคาของ SKY-DWELLER นั้นไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง หากมองถึงเรื่องความคุ้มค่าด้านสเปคก็คงไม่ต้องลังเลใจใด ๆ เพราะมันเหมือนกับซื้อรถสปอร์ตในราคาอีโค่คาร์ แถมไม่ต้องต่อคิวรอของนานอีกด้วย สำหรับเรื่องราคานั้นรุ่น 326933 ค่าตัวอยู่ที่ 6 แสนต้น ๆ มีราคามือสองนั้นอยู่ในช่วง 450,000 บาทและลากยาวไปสูงขึ้น 720,000 บาทซึ่งก็นับว่าทำกำไรได้ไม่เลวเลยทีเดียว นอกจากนี้หากเรามองเฉพาะรุ่น SKY-DWELLER รุ่นทองผสมโลหะโดยไม่จำกัดเรื่องสีสัน เราจะพบรุ่นหน้าปัดสีน้ำเงินมีราคามือสองถึง 875,000 บาทเลยทีเดียว
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่
Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck muller ได้ที่นี่