Auction House Logo

10 ข้อห้ามในการใช้งานนาฬิกาหรู | Auction House

10 ข้อห้ามในการใช้งานนาฬิกาหรู | Auction House

10 ข้อห้ามในการใช้งานนาฬิกาหรู | Auction House

ดูวิดีโอ 10 ข้อห้ามในการใช้งานนาฬิกาหรู | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร

หลายคนที่ซื้อนาฬิกาหรูมาแล้ว อาจจะยังไม่รู้ว่าต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง จึงอาจจะทำให้ใช้งานได้อย่างไม่ถูกวิธี ซึ่งการใช้งานแบบไม่ถูกต้อง จะส่งผลต่ออายุการใช้งานและความแม่นยำของนาฬิกาโดยตรง ซึ่งในวันนี้ Auction House ได้รวบรวม 10 ข้อห้ามที่ต้องระวังในการใช้งานนาฬิกาหรู มาให้ทุกคนได้ฟังกันแล้ว

1. ห้ามตั้งเวลาหรือไขลานระหว่างสวมนาฬิกาอยู่บนข้อมือ

เนื่องจากนาฬิการะบบ Mechanical หรือที่เรียกว่ากลไกจักรกล จะต้องทำการตั้งเวลาหรือขึ้นลานผ่านเม็ดมะยม ซึ่งหากมีการตั้งเวลาหรือไขลานระหว่างที่สวมนาฬิกาอยู่บนข้อมือ ก็จะทำให้องศาของแกนเม็ดมะยมกับกลไกภายในอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการสึกหรอได้เร็วขึ้น ดังนั้นหากจะตั้งเวลาหรือไขลานก็ควรถอดนาฬิกาออกจากข้อมือก่อน แล้วค่อยนำมาถือตั้งค่าเวลาตามปกติ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานของนาฬิกาจักรกลได้อย่างยาวนานแล้ว

2. ห้ามตั้งวันที่ในช่วง 22.00 - 02.00 น.

โดยปกติแล้วช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาต้องห้ามที่ไม่ควรตั้งค่าเปลี่ยนวันที่ โดยเฉพาะนาฬิกาที่มีความสลับซับซ้อนอย่างฟังก์ชัน Moon Phase หรือ Annual Calendar ที่มีปุ่ม Quickset อยู่ข้างตัวเรือน ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการตั้งค่าเป็นพิเศษ โดยห้ามปรับค่าวันที่ในช่วงเวลา 4 ทุ่ม ถึงตี 2 เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่นาฬิกาจักรกลกำลังเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนเวลาและวันที่ เป็นวันถัดไป ดังนั้นทริกในการป้องกันง่าย ๆ ก็คือ ให้หมุนเข็มนาฬิกาจนวันที่เปลี่ยนอัตโนมัติ และให้เวลาเลยช่วงตี 2 ไปก่อน แล้วค่อยตั้งวันที่ตามต้องการได้อย่างปลอดภัย

3. ห้ามใส่นาฬิกาไปเล่นกีฬา

ปกติแล้วนาฬิกาหรูที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในด้านกีฬา ทำให้ไม่สามารถรับแรงกระแทกหรือแรงเหวี่ยงที่รุนแรงได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใส่นาฬิกาออกไปเล่นกีฬาต่าง ๆ โดยเฉพาะกีฬากอล์ฟหรือเทนนิสที่มีการเหวี่ยงและการกระแทกสูง ซึ่งหากต้องการใส่นาฬิกาเล่นกีฬาต้องเลือกนาฬิกาที่ถูกออกแบบมาเพื่อการกันกระแทกโดยเฉพาะ อย่างเช่น Richard Mille บางรุ่น หรือ G-SHOCK เป็นต้น

4. ห้ามวางนาฬิกาไว้ใกล้กับแม่เหล็ก

ในปัจจุบันก็จะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายอยู่รอบ ๆ ตัว ที่ส่งผลกระทบต่อนาฬิกาโดยตรง เพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้มีส่วนประกอบของแม่เหล็กอยู่มากมาย ดังนั้นการวางนาฬิกาไว้ใกล้กับแม่เหล็กจึงส่งผลต่อความแม่นยำในการบอกเวลา โดยเฉพาะตัว Balance Spring ที่เปรียบเสมือนหัวใจของนาฬิกา ซึ่งแม่เหล็กที่อยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็จะสร้างแรงดึงดูดนำชิ้นส่วนนาฬิกาเหล่านี้ไปในทิศทางต่าง ๆ ทำให้นาฬิกาเดินได้ไม่เที่ยงตรง เพราะฉะนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือควรวางนาฬิกาให้ห่างจากอุปกรณ์ที่มีสนามแม่เหล็ก

5. หากนาฬิกามีอายุห้ามใส่ลงน้ำ!

สำหรับนาฬิกาหรูประเภท Dress Watch จะมีมาตรฐานในการกันน้ำอยู่ที่ 30 เมตร ส่วน Diver Watch มาตรฐานกันน้ำจะอยู่ที่ 100 เมตร แต่หากนาฬิกาเหล่านี้มีอายุการใช้งานที่มากแล้ว ถ้าใส่ลงน้ำก็อาจจะทำให้น้ำเข้าจนเกิดความเสียหายได้ เพราะชิ้นส่วนของซีลกันน้ำอาจจะเสื่อมสภาพลง ดังนั้นหากนาฬิกาไม่ได้ผ่านการ Service และไม่ได้เปลี่ยนซีลยางต่าง ๆ มานาน แนะนำให้เลี่ยงการใส่ลงน้ำจะดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทำให้น้ำเข้าตัวเรือน

6. ห้ามใช้ปุ่มจับเวลาเมื่ออยู่ใต้น้ำ

สำหรับนาฬิกาโครโนกราฟในปัจจุบันจะมีมาตรฐานในการกันน้ำได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ห้ามทำเลยเมื่ออยู่ใต้น้ำก็คือห้ามใช้ปุ่มจับเวลาโครโนกราฟ เพราะจะทำให้น้ำแทรกซึมเข้าสู่ตัวเรือนและกลไกได้ แต่ก็มีนาฬิกาบางรุ่นที่ออกแบบเม็ดมะยมแบบล็อกด้วยสกรูกันไว้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการใช้งาน ดังนั้นหากต้องการใช้ฟังก์ชันโครโนกราฟใต้น้ำจะต้องเลือกนาฬิกาโครโนกราฟที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้ปุ่มกดจับเวลาใต้น้ำได้ด้วย แต่สำหรับนาฬิกาโครโนกราฟแบบทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการใช้ปุ่มโครโนกราฟใต้น้ำ รวมถึงการดึงเม็ดมะยมเพื่อตั้งเวลาในขณะอยู่ใต้น้ำเช่นกัน

7. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี

ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม หรือ ผงซักฟอก เนื่องจากสารเคมีบางชนิดมีค่า PH ไม่เป็นกลาง ซึ่งสามารถกัดกร่อนและสร้างความเสียหาย หรือคราบรอยด่างให้กับโลหะต่าง ๆ ของตัวเรือนได้ รวมถึงซีลยาง ไปจนถึงสายนาฬิกาที่ทำจากหนังหรือยางด้วย ดังนั้นจึงควรระวังเวลาใช้สารทำความสะอาดต่าง ๆ หรือหากฉีดน้ำหอมที่บริเวณข้อมือก็ควรรอให้แห้งก่อน แต่หากหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีได้จะดีที่สุด

8. ห้ามใช้งานนาฬิกาต่อหลังจากที่นาฬิกาได้รับความเสียหาย

หากทำนาฬิกาตกพื้น สิ่งแรกที่ควรทำ คือ ดึงเม็ดมะยมออกเพื่อหยุดการทำงานของกลไกนาฬิกาทันที และนำนาฬิกาเข้าไปตรวจเช็กที่ศูนย์บริการก่อนใช้งานต่อ เพราะถึงแม้บางครั้งนาฬิกาอาจจะดูเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ระบบข้างในอาจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงก็เป็นได้ ซึ่งหากยังฝืนใช้งานต่อไป อาจจะทำให้นาฬิกาได้รับความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม

9. ห้ามวางนาฬิกาไว้ในบริเวณที่มีแดดแรง ๆ

สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดในการวางนาฬิกาหรือเก็บนาฬิกา คือ ไม่ควรวางนาฬิกาไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดจ้า เพราะจะทำให้หน้าปัดนาฬิกามีความจางเลือนลางไป เนื่องจากสัมผัสกับแดดโดยตรง และอาจทำให้สายนาฬิกาหนังหรือสายยางเสื่อมสภาพได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บนาฬิกาไว้ในตู้ทึบที่อุณหภูมิห้องปกติ ไม่ชื้นหรืออบอ้าวจนเกินไป เพื่อป้องกันนาฬิกาจากแสงแดด ความชื้น และฝุ่นมลพิษต่าง ๆ และเพื่อยืดอายุการใช้งานนาฬิกาด้วย

10. ห้ามใส่หรือวางนาฬิกาไว้ในที่ชื้น

สำหรับนาฬิกาทั่วไปแล้ว "น้ำ หรือ ความชื้น" เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อนาฬิกาแบบจักรกล และเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะอุณหภูมิที่แตกต่างส่งผลให้ของเหลวอย่างน้ำแปรสภาพกลายเป็นไอน้ำได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการวางนาฬิกาในห้องน้ำเป็นระยะเวลานาน หรือเลี่ยงการใส่นาฬิกาเข้าห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำต่าง ๆ หรือ ออนเซ็น ที่น้ำมีความร้อนแล้วกลายเป็นไอน้ำระเหยออกมา ซึ่งไอน้ำนับว่าเป็นความชื้นในอากาศที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในตัวเรือนนาฬิกาได้ โดยเฉพาะนาฬิกาที่ซีลยางเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว

#ข้อห้ามในการใช้งานนาฬิกาหรู

Recommended Posts