Auction House Logo

The Art of Dial Finishing รู้จักกับศิลปะบนหน้าปัดนาฬิกา | Auction House

The Art of Dial Finishing รู้จักกับศิลปะบนหน้าปัดนาฬิกา | Auction House

The Art of Dial Finishing รู้จักกับศิลปะบนหน้าปัดนาฬิกา | Auction House

ดูวิดีโอ รู้จักกับศิลปะบนหน้าปัดนาฬิกา | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร

หลาย ๆ คน คงจะตกหลุมรักนาฬิกา เพราะศิลปะการประดับตกแต่งที่สวยงาม ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเรือนเวลา โดยองค์ประกอบหลักของนาฬิกาที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นศิลปะได้เป็นอย่างดีและเด่นชัดที่สุด คงหนีไม่พ้น "หน้าปัด" อย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนมาชมศาสตร์การเก็บงานบนหน้าปัดของนาฬิกา ว่ามีรูปแบบใดบ้าง

Brushed Finish

มาเริ่มกันที่ Brushed Finish ซึ่งเป็นเทคนิคการเก็บงานแบบแปรงปัดบนหน้าปัด โดยจะแบ่งรูปแบบ Brushed Finish ออกเป็น 2 เทคนิคหลัก นั่นก็คือ Sunray Brushed และ Satin Brushed

โดย Sunray Brushed จะเป็นการปัดลายเป็นเส้น ๆ เสมือนรังสีของแสงดวงอาทิตย์ ทำให้หน้าปัดมีการเล่นแสงจากจุดกึ่งกลางของหน้าปัดแผ่กระจายออกไปสู่ขอบด้านข้างได้อย่างสวยงาม นาฬิกาจึงดูหรูหรามีมิติ และเล่นแสงได้เป็นอย่างดี

ส่วน Satin Brushed จะเป็นการปัดลายแบบเส้นขนานที่หนาแน่นละเอียดยิบ ทำให้โลหะของหน้าปัดมีความด้าน (Matte) และมีพื้นผิวที่สวยงาม ให้ลุคที่ดูหนักแน่นและสุขุม โดยเราจะเรียกการขัดแต่งรูปแบบนี้ว่า การขัดเงาแบบซาติน หรือการขัดแบบเส้นตรงนั่นเอง

Guilloché Dial

Engine Turning หรือที่เรียกกันว่า Guilloché ในภาษาฝรั่งเศสนั้น เป็นเทคนิคการตกแต่งหน้าปัดแบบเก่าแก่ที่สุดด้วยวิธีดั้งเดิม ซึ่งจะใช้เครื่องมือในการแกะสลักลวดลายเรขาคณิตต่าง ๆ โดยจะเห็นได้ในหน้าปัดนาฬิการะดับ High-end เท่านั้น เพราะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทักษะและเวลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแบรนด์ที่ยังใช้เครื่องมือ Guilloché แบบดั้งเดิม ที่มีขั้นตอนการทำที่ซับซ้อนมากกว่า

ซึ่งหากพูดถึงลวดลาย Guilloché ที่มักจะพบเห็นได้บ่อย ก็จะมีอย่างเช่น Clous de Paris, Basket Weave, Fish Scale และ Flinqué โดย Clous de Paris หรือที่เรียกว่า Hobnail จะเป็นลวดลายที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายที่สุด ส่วน Basket Weave ถือว่าเป็นหนึ่งในลวดลายที่ทำยากที่สุด เพราะเป็นลวดลายตารางสี่เหลี่ยมสวยงามที่ถูกแกะด้วยมือทั้งหมด ซึ่งทุกช่องจะต้องทำมุม 90 องศาได้อย่างสมบูรณ์

Tapisserie

Tapisserie เป็นหนึ่งในรูปแบบหน้าปัดที่เป็นภาพจำของแบรนด์ Audemars Piguet ที่มาจากคอลเลกชันสุดฮิตอย่าง Royal Oak ซึ่ง Tapisserie เป็นหนึ่งในเทคนิคการทำหน้าปัดแบบ Guilloché เพื่อให้เกิดเป็นลวดลายตารางสี่เหลี่ยมเรียงกันละเอียดยิบ ทำให้ได้หน้าปัดที่มีมิติและสวยงาม ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการผลิตเป็นอย่างมาก โดยรูปแบบของหน้าปัดจะแบ่งออกเป็น Petite Tapisserie, Grande Tapisserie และ Méga Tapisserie

มาเริ่มที่ Petite Tapisserie เป็นรูปแบบหน้าปัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดเล็กมากและมีลวดลายสี่เหลี่ยมจำนวนมากมาย มีความหนาแน่นเต็มทุกพื้นที่ของหน้าปัด สำหรับ Grande Tapisserie ลวดลายสี่เหลี่ยมบนหน้าปัดจะมีขนาดใหญ่กว่า Petite Tapisserie ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ส่วน Méga Tapisserie เป็นลวดลายสี่เหลี่ยมตารางที่มีใหญ่ที่สุดในบรรดาทั้งหมด 3 รูปแบบที่กล่าวมา ซึ่งมักพบได้ในรุ่น Royal Oak Offshore เป็นส่วนใหญ่

Enameling

หน้าปัดแบบ Enamel (อีนาเมล) เป็นหนึ่งในเทคนิคการผลิตหน้าปัดนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุด โดยจะนำหน้าปัดมาลงยา จากนั้นจึงนำไปผ่านความร้อนสูงหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความประณีตเป็นอย่างมาก จึงทำให้ได้พื้นผิวของหน้าปัดอันเรียบเนียน เงางาม และทนทานต่อการซีดจาง นอกจากหน้าปัด Enamel (อีนาเมล) แบบเรียบ ๆ ที่พบเห็นได้บ่อยแล้วนั้น ก็จะมีแบบที่วาดเป็นลวดลายต่าง ๆ ที่จะใช้เทคนิคขั้นสูง ได้แก่ Champlevé Enameling, Cloisonné Enameling และ Grand Feu Enameling

Champlevé Enameling (ฌ็องเลเว อีนาเมล) โดยฐานของหน้าปัดจะถูกเซาะร่องแกะสลักเป็นลวดลายต่าง ๆ แล้วค่อยลงสีในแบบที่ต้องการ จากนั้นนำไปอบด้วยความร้อนสูง จึงจะออกมาเป็นหน้าปัดอันเงางาม

ส่วน Cloisonné Enameling (คลัวซอนเน อีนาเมล) เป็นเทคนิคการลงยาที่เริ่มต้นด้วยการนำโลหะ อย่างเช่นทองคำ มาดัดขึ้นรูปเป็นโครงร่างเพื่อสร้างช่องกั้นระหว่างลวดลายบนหน้าปัดตามแบบที่ต้องการ แล้วจึงนำหน้าปัดไปลงยาในเฉดสีต่าง ๆ จากนั้นค่อยนำไปอบในเตาด้วยความร้อนสูง ทำให้เกิดเป็นลวดลายที่สายงาม โดยเทคนิค Cloisonné Enameling จะสามารถสังเกตได้จากโลหะที่กั้นระหว่างลวดลายอย่างชัดเจน

สำหรับ Grand Feu Enameling (กรองด์ เฟอ อีนาเมล) เป็นเทคนิคการลงยาที่มีความซับซ้อนในการผลิตขึ้นอีกระดับ เพราะมีขั้นตอนการลงยาซ้อนทับกันไปเรื่อย ๆ หลายต่อหลายชั้น ทำให้สีของ Enamel (อีนาเมล) มีมิติและมีประกายแวววาวที่งดงาม ซึ่งความยากของขั้นตอนนี้คือทุกชั้นของ Enamel จะต้องผ่านการอบในเตาด้วยความร้อนสูง ซึ่งหากมีชั้นใดชั้นหนึ่งมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะต้องเริ่มผลิตใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนแรก เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยความชำนาญและความประณีตเป็นอย่างมากในทุก ๆ ขั้นตอนของการผลิต

Fumé Dial

ต่อมาเป็นเทคนิคการเก็บงานแบบ Fumé หรือ Smoked หรือ Gradient ขึ้นอยู่ที่ว่าจะเรียกแบบไหน ซึ่งการตกแต่งหน้าปัดรูปแบบนี้ เป็นหนึ่งในเทคนิคของ Enamel ซึ่งความพิเศษคือจะมีการเปลี่ยนสี ไล่ระดับจากโทนสีอ่อนตรงกลาง ไปเป็นโทนสีเข้มบริเวณขอบหน้าปัด หากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ก็คือ หน้าปัดเป็นแบบรมควันนั่นเอง

Engraving

Engraving เป็นเทคนิคการแกะสลักหน้าปัดระดับปรมาจารย์ โดยช่างผู้ชำนาญการจะใช้เครื่องมือแกะสลัก หรือที่เรียกว่า Graver Sharp แกะสลักลงบนแผ่นวัสดุที่จะนำมาทำหน้าปัด ซึ่งเป็นการถ่ายทอดงานศิลปะออกมาในลักษณะรูปทรงหรือตัวอักษรต่าง ๆ โดยวิธีการแกะสลักก็จะมีรายละเอียดและขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละแบรนด์

Hand Hammering

Hand Hammering หรือที่เรียกว่า การตอก เป็นเทคนิคการตกแต่งหน้าปัดที่ต้องใช้ค้อนและหมุดตอกลงไปบนพื้นผิวซ้ำ ๆ หลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้เกิดลวดลายเอฟเฟกต์บนพื้นผิวที่ดูขรุขระสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการผลิตหน้าปัดในรูปแบบนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากช่างฝีมือชั้นสูงที่มีความเฉพาะทาง ดังนั้นหน้าปัดของนาฬิกาจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละหน้าปัดจะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะการตอกและเทคนิคของช่างฝีมือแต่ละคน ซึ่งเป็นเหมือนลายเซ็นอย่างหนึ่งของช่างเลยก็ว่าได้

Frosting

Frosting เป็นเทคนิคการตกแต่งหน้าปัดที่ทำให้พื้นผิวดูหยาบ และมีความด้าน เพื่อให้ตัดกับองค์ประกอบอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว เช่น เข็มหรือหลักชั่วโมงที่ถูกขัดเงา จะช่วยเสริมให้ภาพรวมดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แต่เทคนิค Frosting ในสมัยใหม่ ได้มีการปรับเปลี่ยนและนำมาประยุกต์ใช้ ทำให้เกิดวิธีการผลิตที่หลากหลาย เช่นการผลิตแบบ Sand Blasting หรือการใช้แปรงปัดเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ลวดลายที่มีความคล้ายคลึงกับเทคนิคเดิม

Gem Setting

Gem Setting เป็นเทคนิคการตกแต่งด้วยเพชร หรืออัญมณีต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง เพราะต้องอาศัยเทคนิคมากมายเพื่อให้อัญมณีเล่นกับแสงได้อย่างเปล่งประกายและงดงามที่สุด ซึ่งในวงการนาฬิกาก็นิยมนำอัญมณีต่าง ๆ มาประดับบนหน้าปัด, ขอบหน้าปัด ไปจนถึงสายนาฬิกา ซึ่งสามารถเพิ่มความหรูหราและเพิ่มมูลค่าให้นาฬิกาได้เป็นอย่างดี


Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier,

Recommended Posts