Auction House Logo

Watch Movement คืออะไรและทำงานอย่างไร

Watch Movement คืออะไรและทำงานอย่างไร

Watch Movement คืออะไรและทำงานอย่างไร

สำหรับคนที่เพิ่งมาอยู่ในวงการนาฬิกา หลายคนอาจสับสนและสงสัยเกี่ยวกับคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นตาอย่าง Automatic คืออะไร? เรือนเวลาเรือนนี้เป็นแบบ Quartz หรือ Manual Winding? หรือถึงกับอยากรู้ว่า Movement นั้นมันมีกลไกทำงานอย่างไร คำตอบทั้งหมดอยู่ในบนความนี้แล้ว วันนี้เราจะพาคุณไปดูว่า Movement คืออะไร มีกี่ประเภท ทำงานอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียต่างกันตรงไหน เพื่อให้คุณสามารถเลือกนาฬิกาที่เหมาะสม คุ้มค่ามากที่สุด และสนุกสนานไปกับการครอบครองนาฬิกาและเข้าใจการทำงานของนาฬิกามากขึ้น

Movement คือหัวใจของนาฬิกา

หัวใจของนาฬิกาคือ Movement

หากจะให้เปรียบเทียบกับรถยนต์หรือร่างกายของเรา Movement ก็คือเครื่องยนต์สำหรับรถ หรือเป็นอวัยวะภายในของคนทุกคน เพราะฉะนั้น Movement จึงเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนนาฬิกา และเป็นตัวกำหนดฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของนาฬิกา เช่น

1. Chronograph - ฟังก์ชั่นการจับเวลา 2. Moonphase - ฟังก์ชั่นที่บอกข้างขึ้นข้างแรมได้ 3. Perpetual Calendar - ระบบปฏิทินถาวรที่แสดงวันที่ได้อย่างถูกต้องในทุกเดือน 4. Leap Year - ฟังก์ชั่นที่แสดงค่าวัน เดือน และปีอธิกสุรทิน 5. Grand Complication - นาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นซับซ้อนมากที่สุด โดยการรวมหลายฟังก์ชั่นด้านบนเอาไว้

ทุกอย่างที่เราเห็นบนหน้าปัดล้วนควบคุมด้วย Movement ทั้งสิ้น ยิ่งฟังก์ชั่นเยอะ Movement ยิ่งซับซ้อนและผลิตยากขึ้น จุดนี้เองที่ทำให้แต่ละแบรนด์มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และการทำ Movement ยังสามารถบอก Positioning ของแบรนด์ได้อีกด้วย เพราะว่าการผลิต Movement มีหลายวิธีและต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตั้งแต่การจ้างมือที่สามผลิตให้ ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนเองแบบ In-house จนไปถึงการมี Hand Finishing ที่เป็นจุดชัดเจนว่าใครเจ๋งกว่าใคร!

Movement แต่ละประเภท

Movement ของนาฬิกาถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1. Mechanical Movement มีกลไกภายในที่ประกอบไปด้วยฟันเฟืองและเกียร์ต่าง ๆ นาฬิกากลไกถือว่าเป็นสุดยอดด้านวิศวกรรม เพราะต้องใช้การคำนวณอย่างละเอียด ที่น่าประหลาดใจก็คือกลไกที่ซับซ้อนนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงดันจากสปริงเพียงตัวเดียวเท่านั้น! ลองจินตนาการดูว่าสปริงชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นเดียวต้องแบกรับในการขับเคลื่อนเกียร์และฟันเฟืองทั้งหมดให้บอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรงได้ถึง -4/+6 วินาทีต่อวันเท่านั้น

2. Quartz Movement เป็น Movement ที่มีวงจรไฟฟ้าและต้องใช้แบตเตอร์รี่ในการขับเคลื่อนกลไกการเดินเวลา หรือพูดบ้าน ๆ ก็คือนาฬิกาใส่ถ่าน เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า มีจุดเด่นที่ดีที่สุดคือสามารถเดินเวลาได้แม่นยำมากกว่า Mechanical Movement! ที่สำคัญคือมีราคาถูกกว่ามากจนทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย

นิยามและการทำงานของ Manual Movement

Mechanical Watch ก็ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Manual Movement และ Automatic Movement

1. Manual Movement หรือ “กลไกไขลานด้วยมือ” คือ Movement ที่เก่าแก่ที่สุด ได้ลืมตามาดูโลกครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 16 เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้เป็นเพราะว่าผู้สวมใส่ต้องไขลานนาฬิกาเป็นประจำเพื่อให้มันทำงานได้ หากไม่ไขลานนาฬิกาจะหยุดเดินซึ่งการไขหนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 48 – 72 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับรุ่น การไขลานด้วยเม็ดมะยมจะต้องทำจนกว่าจะรู้สึกว่าเม็ดมะยมแน่นขึ้น แต่ต้องไม่ไขไปมากกว่านี้เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวเครื่องได้ ข้อควรระวังอีกข้อคือไม่ควรไขลานขณะที่สวมใส่นาฬิกาบนข้อมือ การไขแบบนี้จะทำให้แกนเม็ดมะยมทำมุมองศาไม่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาวต่อตัวกลไก จุดเด่นของนาฬิกา Manual คือมีความบางกว่า Automatic จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบ Dress Watch ที่บางเรียบ

นิยามและการทำงานของ Automatic Movement

2. Automatic Movement คืออีกรูปแบบหนึ่งของ Mechanical Movement เริ่มวางขายครั้งแรกในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 20 ชื่อ “อัตโนมัติ (Automatic)” หมายความว่าผู้สวมใส่ไม่จำเป็นต้องคอยหมุนเม็ดมะยมเพื่อเติมพลังให้กับเรือนเวลา ตัว Movement สามารถไขลานได้ด้วยตัวเองผ่านการเคลื่อนไหวของข้อมือของผู้สวมใส่ ระบบนี้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อให้มีความสะดวกมากขึ้นและแก้ไขปัญหาการ “ลืม” ไขลานนาฬิกา ซึ่งทำให้ต้องมาตั้งเวลาใหม่ มีการใส่สำรองพลังงานโดยทั่วไปมากถึง 48-72 ชั่วโมง ซึ่งหากคุณใส่นาฬิกาไปทำงานเป็นประจำ คุณสามารถวางนาฬิกาทิ้งไว้ในวันเสาร์-อาทิตย์ และสามารถหยิบมาใส่ไปทำงานใหม่ในวันจันทร์ได้โดยไม่ต้องตั้งเวลาแต่อย่างใด

นิยามและการทำงานของ Quartz Movement

Quartz Movement คือกลไกที่ใช้แบตเตอร์รี่เป็นตัวจ่ายพลังงาน และไม่จำเป็นต้องมีการไขลาน เปิดตัวครั้งแรกในปี 1969 โดย Seiko บริษัทผลิตเรือนเวลาสัญชาติญี่ปุ่นที่สามารถสร้างวิกฤตระดับโลกอย่าง Quartz Crisis ที่ทำเอาเหล่าผู้ผลิต Mechanical Watch ล้มตายไปหลายเจ้าเพราะเป็นกลไกที่ให้ความแม่นยำเที่ยงตรงมากกว่า Mechanical Movement แถมมีราคาถูกกว่าอีกหลายเท่าตัวอีกด้วย ปัจจุบันผู้ผลิตหลายแบรนด์ก็ยังคงเลือกใช้ Quartz Movement ในการผลิตนาฬิกาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ทุกกลุ่ม

ข้อดีข้อเสียของ Movement

ข้อดีข้อเสียของแต่ละ Movement

โดยรวมแล้ว Quartz Movement มีข้อดีคือให้เวลาที่แม่นยำที่สุดในบรรดากลไกที่กล่าวมา ใช้งานง่ายผ่านแบตเตอร์รี่ไม่ต้องคอยมาไขลานบ่อย ๆ มีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า ถึกทนกว่าเพราะมีชิ้นส่วนน้อย และมีราคาย่อมเยากว่าเพราะกลไกใช้เวลาในการผลิตน้อยกว่า Mechanical Movement แต่ก็มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเช่นกัน เพราะชิ้นส่วน Electronic ก็มีอายุของมัน และถ้ามองในเชิงลงทุนก็ไม่คุ้มค่าเหมือนกัน หลัก ๆ เป็นเพราะมีอายุขัยที่จำกัดและคงส่งต่อไม่ถึงมือรุ่นลูกรุ่นหลาน

ส่วนเหตุผลที่ทำให้หลายคนเลือก Mechanical มากกว่า Quartz คือ “ความคุ้มค่าที่แท้จริง” คุ้มค่าที่ได้ชมความงามของกลไก เป็นชิ้นงานที่ได้รับการผสมผสานระหว่าง “ศิลปะ” และ “วิศวกรรม” อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งเป็นเรือนเวลาที่มี Hand Finishing ระดับสูงยิ่งมีงดงามและมีมูลค่าสูง มีการออกแบบที่ Timeless คุ้มแค่แก่การลงทุน หรือในเชิง Heir Loom เพราะสามารถส่งต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้ หากคุณต้องการนาฬิกาที่ดูแลง่ายและมีความเที่ยงตรงสูงก็ให้เลือกนาฬิกาที่มี Quartz Movement หากคุณหลงใหลในการทำงานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์ เรือนเวลาที่มากับ Mechanical Movement ก็เหมาะกับคุณมากกว่า


ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่

Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck muller ได้ที่นี่

Recommended Posts