ประวัติ Vacheron Constantin หนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก | Auction House
ดูวิดีโอ ประวัติแบรนด์นาฬิกา Vacheron Constantin | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร

Vacheron Constantin
Vacheron Constantin หรือที่ผู้คนมักเรียกกันว่า VC เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสฯที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่า 266 ปี มีความมุ่งมั่นในการผลิตนาฬิกาที่มีความแม่นยำ บวกกับงานฝีมือที่พิถีพิถัน การออกแบบที่หรูหรา และมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีชั้นสูงที่รวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดมาประกอบเป็นนาฬิกา ภายใต้ปรัชญาของแบรนด์ที่กล่าวไว้ว่า "Do better if possible, and that is always possible" วันนี้เราจะมาดูกันว่าเส้นทางของแบรนด์ VC มีจุดเริ่มต้นและความเป็นมาอย่างไรบ้าง

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Vacheron Constantin
เรื่องราวของแบรนด์ Vacheron Constantin ได้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1755 เมื่อ Jean-Marc Vacheron ช่างซ่อมนาฬิการะดับปรมาจารย์ ในวัย 24 ปี ณ ขณะนั้น ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยความตั้งใจที่จะต่อยอดและส่งต่อทักษะอันเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาที่มีคุณภาพสูงให้กับรุ่นต่อ ๆ ไป ซึ่งในปีเดียวกันนี้เอง Jean-Marc Vacheron ก็ได้สร้างสรรค์ Pocket Watch ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนสีเงิน ลงนาม "J.M: Vacheron A GENEVE" บนตัวกลไก และเป็นนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่มีการระบุชื่อผู้ก่อตั้งแบรนด์ ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นมรดกตกทอดของแบรนด์ Vacheron Constantin และเป็น Pocket Watch ที่เก่าแก่ที่สุดของแบรนด์
ถัดมาในปี 1810 Jacques Barthélémi Vacheron หลานชายของ Jean-Marc Vacheron ก็ได้เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารกิจการครอบครัว ทางแบรนด์จึงได้เริ่มต้นผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งก็คือนาฬิกาพก Quarter Repeater เพื่อเป็นตัวแทนของความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคการทำนาฬิกาที่มีความสลับซับซ้อนในยุคแรก ๆ อีกทั้งด้วยความสามารถทางด้านการค้าของ Jacques-Barthélémi Vacheron จึงได้มีการพัฒนาและขยายกิจการโดยการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นจากประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกแห่งช่างทำนาฬิกาผู้ยิ่งใหญ่ของ VC นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ที่มาของ Vacheron Constantin
ในปี 1819 Jacques-Barthélémi Vacheron ต้องการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เขาจึงตระหนักได้ว่าจำเป็นจะต้องมีหุ้นส่วนเพื่อช่วยให้กิจการดำเนินไปได้ดียิ่งขึ้น โดยเขามีโอกาสได้พบกับ François Constantin นักธุรกิจมากประสบการณ์ จึงได้ติดต่อพูดคุยและได้ตกลงทำธุรกิจร่วมกัน จากนั้นก็ได้ตั้งชื่อบริษัทใหม่เป็น "Vacheron et Constantin" และเพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ.1819 ระหว่างการเดินทางไป Turin ประเทศอิตาลี François Constantin ก็ได้เขียนข้อความถึง Jacques-Barthélémi Vacheron ผู้เป็นพาร์ทเนอร์ มีใจความว่า "Do better if possible, and that is always possible" หมายถึง “ทำให้ดีขึ้นถ้าเป็นไปได้ และมันก็เป็นไปได้เสมอ” ซึ่งประโยคนี้เองที่เป็นสโลแกนสำคัญของแบรนด์ Vacheron Constantin มาจนถึงทุกวันนี้

ในยุค ค.ศ. 1800 นาฬิกาพกคืออุปกรณ์หลักที่ใช้บอกเวลา ซึ่งทางแบรนด์ VC เองก็มีการผลิตนาฬิกาพกที่เน้นความหรูหราและสวยงาม เช่น นาฬิกาพกในปี 1824 ที่ตัวเรือนทำจาก Yellow Gold และตกแต่งอย่างประณีตด้วยแผนที่ของอิตาลี สลักและเคลือบด้วยเทคนิค Champlevé (ซองเปลเว) มาพร้อมหน้าปัดสีเงินแกะสลักลวดลายกิโยเช่ทั้งหมด ซึ่งเป็นความงามที่ต้องอาศัยความประณีตและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์

นอกจากนี้แล้ว ในยุค ค.ศ. 1800 ก็เป็นยุคของการเดินเรือและยุคแห่งการเดินทาง ดังนั้นเครื่องมือเชิงคำนวณในการเดินทางจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า Marine Chronometer ที่มีความแม่นยำเพื่อใช้ในการกำหนดทิศทางของการเดินเรือ ซึ่งในช่วงนั้นบริษัทนาฬิกาทั้งหลายก็มีเป้าหมายในการพัฒนาความแม่นยำของ Marine Chronometer และทางแบรนด์ VC เอง ก็ได้เข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้ โดยมุ่งมั่นพัฒนานาฬิกาจนมาสู่การปฏิวัติ Pocket Chronometer โดยการเปิดตัวนาฬิกาพก Marine Chronometers ในปี 1869 ตัวเรือน Yellow Gold มีฝาปิด มาพร้อมหน้าปัดเคลือบอีนาเมลสีขาว ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้มีความแม่นยำสูงมาก การันตีความแม่นยำโดยการชนะ Chronometry Competitions ที่จัดโดยหอดูดาวเจนีวา

กำเนิด MALTESE CROSS LOGO โลโก้แบรนด์ VC
ในปี 1880 VC ก็ได้ทำการออกแบบโลโก้กางเขนมอลตา โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชิ้นส่วนของกลไกที่มีส่วนช่วยให้นาฬิกาเดินได้เที่ยงตรงมากขึ้น โดยโลโก้นี้แสดงให้เห็นถึงปณิธาน และเป็นตัวแทนของแบรนด์ ที่มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำนาฬิกาที่มีความแม่นยำอย่างสูงสุด จนได้กลายเป็นโลโก้ของแบรนด์ที่ถูกนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้

นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของแบรนด์
ในช่วงยุคสมัยนั้น นาฬิกาข้อมือจะถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องประดับสำหรับผู้หญิง ในขณะที่ผู้ชายจะใช้นาฬิกาพกมาโดยตลอดจนถึงศตวรรษที่ 20 ฉะนั้นทางแบรนด์ VC จึงเกิดไอเดียในการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือเพื่อตอบสนองความนิยมของสาว ๆ ในช่วงนั้น ทางแบรนด์จึงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างหนักเพื่อให้ได้นาฬิกาที่มีคุณภาพ จนกระทั่งในปี 1889 VC ก็ทำสำเร็จ โดยได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพสตรี มีการแกะสลักประกอบขึ้นอย่างประณีตบนสร้อยข้อมือและประดับเพชรล้อมรอบขอบตัวเรือน ทำให้นาฬิกาดูงดงามอย่างแตกต่าง และเพื่อคงการดีไซน์ให้เรียบขึ้น ทางแบรนด์จึงตัดเม็ดมะยมออก แล้วได้ออกแบบพิเศษให้ตั้งเวลาโดยการหมุนขอบหน้าปัดแทน

ยุคแรกของแบรนด์ VC
ในช่วงแรกของศตวรรษที่ 20 Vacheron Constantin ได้เริ่มเข้าสู่ตลาดโลกอย่างเต็มตัว โดยในปี 1906 ทางแบรนด์ได้เปิดบูติกแห่งแรกที่ Quai de L’Ile ในเจนีวา เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้ามาชมนาฬิกาได้ ถัดมา 1 ปีก็ได้เปิดตัวนาฬิกาพก Royal Chronometer เรือนแรก ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความทนทาน เพราะสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างได้เป็นอย่างมาก และมีความแม่นยำระดับสูง ทำให้นาฬิกาพกรุ่นนี้กลายเป็นที่นิยมในระดับสากลได้อย่างรวดเร็ว

Iconic Model American 1921 นาฬิกาข้อมือเพื่อตลาดอเมริกา
ต่อมาในปี 1921 ทางแบรนด์มีแนวคิดอยากจะตีตลาดอเมริกา จึงทำการออกแบบนาฬิกาข้อมือที่ตัวเรือนเป็นรูปทรง Cushion มีเอกลักษณ์ในแบบที่แตกต่าง เพราะในยุคนั้นนาฬิกาพกยังคงครองเทรนด์อยู่ ฉะนั้นการสวมนาฬิกาข้อมือจึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความทันสมัยและความสำเร็จ ซึ่งความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่ตำแหน่งของเม็ดมะยมจะอยู่ที่บริเวณ 11 นาฬิกา แต่ในปัจจุบันเม็ดมะยมถูกย้ายไปอยู่บริเวณ 1 นาฬิกาแทน ซึ่งการผลิตเช่นนี้ก็เพื่อคนถนัดซ้ายและถนัดขวา เพราะไม่ว่าจะสวมนาฬิกามือไหนก็สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย

Watches for Kings นาฬิกาเพื่อราชา
ทางแบรนด์ VC ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์ต่าง ๆ ทั่วโลก จึงได้มีการสร้างนาฬิกาหลายเรือนให้กับราชวงศ์ในยุคนั้น เช่น มหาราชาแห่ง PATIALA ในประเทศอินเดีย แต่เรือนที่ถือว่าเป็นนาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดเรือนหนึ่งในยุคศตวรรษที่ 20 ก็คือ เรือนที่รังสรรค์ให้กับลูกชายของ King Fuad I แห่งอียิปต์ เพราะแบรนด์ VC ใช้เวลานานถึง 5 ปีในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้ให้แล้วเสร็จ โดยมีความซับซ้อนถึง 14 อย่าง และมีฟังก์ชันสุดซับซ้อนอย่าง Carillon Minute Repeater, Split-seconds Chronograph, Perpetual Calendar, Moonphase และ Moon Age Indicator

Achievement ความสำเร็จของ VC
แรกเริ่มสิ่งประดิษฐ์กลไกนาฬิกาที่เรียกว่า World Time ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1931 โดย Louis Cottier เขาจึงคิดค้นและสร้างกลไก World Time ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ และในปี 1932 ทางแบรนด์ VC ก็ได้จับมือกับ Louis Cottier เพื่อสร้างนาฬิกา World Time ที่มี 31 ไทม์โซน ขึ้นเป็นเรือนแรกของโลก ซึ่งเป็นความซับซ้อนใหม่ที่ตอบสนองต่อยุคแห่งการขนส่งและการเดินทางเป็นอย่างมาก โดยหน้าปัดนาฬิการอบนอกจะเขียนชื่อเมืองสำคัญในประเทศต่าง ๆ ทั้ง 31 เมือง เพื่อให้สามารถบอกเวลาได้อย่างครบถ้วน

เท่านั้นยังไม่พอ ในปี 1955 เนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปีของ Vacheron Constantin ทางแบรนด์ก็ถือโอกาสเปิดตัว The Ultra-Thin wristwatch นาฬิกาข้อมือที่บางเฉียบเพียง 1.64 มิลลิเมตร ซึ่งบางเกือบเท่ากับเหรียญ 20 เซนต์ฟรังก์สวิสฯ จึงกลายเป็นกลไกไขลานที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ถัดมาในปี 1957 สไตล์คลาสสิกของ Vacheron Constantin ก็ถือกำเนิดขึ้น เนื่องจาก VC เน้นผลิตนาฬิกาทรงกลมแบบธรรมดาที่บางเฉียบ ไม่มีการตกแต่งภายนอกและเน้นการออกแบบที่เรียบง่ายโดยดึงเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ทำให้นาฬิกาดูสะอาดงดงามเหนือกาลเวลา และด้วยความคลาสสิกนี้เอง ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นจุดกำเนิดของคอลเลกชัน Patrimony

หลัง Quartz Crisis หรือ วิกฤตินาฬิกาใส่ถ่าน Luxury Sport Watch ก็ได้กลายเป็นที่นิยม แบรนด์ VC ก็หันมาตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนาฬิกา Steel แนวสปอร์ต โดยการเปิดตัวนาฬิกา 222 ในโอกาสครบรอบ 222 ปีของ VC ซึ่งเป็นการออกแบบที่แตกต่างจากแบบดั้งเดิมเป็นอย่างมาก โดย Jörg Hysek ดีไซเนอร์ชาวเยอรมันได้เข้ามาออกแบบนาฬิกาให้กับแบรนด์ VC โดยนาฬิกาเป็นแนวสปอร์ตที่ทำจาก Steel ตัวเรือนเป็นทรง Tonneau ที่ได้รับความนิยมมากในช่วงปี 1970 ขอบหน้าปัดเป็นรอยหยักพร้อมโครงสร้างแบบ Monobloc ซึ่งทนทานต่อการสึกหรอเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน และด้วยลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์นี้ จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสรรค์ Overseas คอลเลกชันยอดนิยมของแบรนด์ VC ในเวลาต่อมา

กำเนิดกลไก Minute Repeater ที่บางที่สุดในโลก
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอันแรงกล้า ทำให้ VC พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง จนในที่สุดความตั้งใจของพวกเขาก็เกิดผล เพราะในปี 1992 แบรนด์ VC ประสบความสำเร็จในการผลิตกลไก Calibre 1755 ที่บางเฉียบสุด ๆ โดยมีความหนารวมเพียง 3.28 มิลลิเมตรเท่านั้น กลไกตัวนี้จึงกลายเป็นกลไก Minute Repeater ที่บางที่สุดในโลก

กำเนิดคอลเลกชัน Overseas
ปี 1996 เป็นปีที่สำคัญของแบรนด์ VC เพราะ Vendôme Luxury Group หรือ Richemont Group ในปัจจุบัน ได้ซื้อหุ้นของ Vacheron Constantin และได้ออกคอลเลกชัน Overseas โดยนาฬิกา Overseas เรือนแรกของแบรนด์มีขนาด 37 มิลลิเมตร ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับนักเดินทางทั่วโลก โดยตัวเรือน Overseas จะเป็นรูปทรงตันพร้อมกรอบร่องหน้าปัดที่ชวนให้นึกถึงไม้กางเขนมอลตา เส้นสายแบบไดนามิกที่สามารถขยายได้ ทำให้ Overseas กลายเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ และเป็นรุ่นยอดฮิตที่นักสะสมมีไว้ในครอบครอง

รางวัล Aiguille d'Or
เข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 21 ในการผลิตนาฬิกาของ Vacheron Constantin ทางแบรนด์ก็ยังคงไม่หยุดคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2001 ทางแบรนด์ได้รับรางวัล "Aiguille d'Or" หรือที่เรียกว่า รางวัลนาฬิกายอดเยี่ยมประจำปี จากงาน Grand Prix d'Horlogerie de Genève โดยนาฬิกาที่ได้รับรางวัลก็คือ Lady Kalla ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการผลิตนาฬิกา Jewelry ของแบรนด์ที่มีมาตั้งแต่ปี 1980 มีการแกะสลักทองคำขาว 18 กะรัต แบ่งระหว่างตัวเรือน สายนาฬิกา และหน้าปัด ซึ่งนาฬิกามีเพชรทรงเอเมอรัลด์ ที่ผ่านการเจียระไนอย่างสวยงามมาประดับมากกว่า 120 เม็ด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง Haute Joaillerie และ Haute Horlogerie

กำเนิดคอลเลกชัน Patrimony
Patrimony เปิดตัวอีกครั้งในปี 2004 สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบที่เรียบง่าย โดยตั้งใจสร้างความสมดุลที่สวยงามระหว่างเส้นตรงและเส้นโค้งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นในปี 1950 โดยแบรนด์ VC ยังคงยืนหยัดในเรื่องการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และการมองเห็นถึงความสมบูรณ์แบบของวงกลม จึงเกิดแรงบันดาลใจในการนำเอาความคลาสสิกมาออกแบบนาฬิกาให้ดูสวยงามและโดดเด่นเกิดเป็นคอลเลกชัน Patrimony ที่เน้นความมินิมอลเรียบง่ายภายใต้ตัวเรือนที่เพรียวบางอันเป็นเอกลักษณ์ของ VC

อีกครั้งกับรางวัล Aiguille d'Or นาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
Vacheron Constantin Tour de l’Ile Grand Complication
ในปี 2005 แบรนด์ VC ได้เซอร์ไพรส์โลกแห่งเวลาด้วย Tour de l'Île นาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ได้คว้ารางวัล Aiguille d'Or หรือรางวัลนาฬิกายอดเยี่ยมแห่งปี 2005 และเป็นหนึ่งในความซับซ้อนของยุคสมัยใหม่ โดยนาฬิการุ่นนี้ถูกตั้งชื่อตามสถานที่ปฏิบัติงานของ Vacheron Constantin ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 แปลตามตัวอักษรได้ว่า Tower on the Island ซึ่งนาฬิกา Tour de l'Île นี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพียง 8 เรือนเท่านั้น ขายไปแล้ว 7 เรือน เหลืออีก 1 เรือนสุดท้าย ที่ทางแบรนด์ Vacheron Constantin ได้เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ มีมูลค่าสูงถึง 1.5 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 48 ล้านบาท

Reference 57260 - The Most Complicated Pocket Watch in the World
ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2015 เนื่องในโอกาสครบรอบ 260 ปีของ VC ทางแบรนด์จึงถือโอกาสเปิดตัวนาฬิกา Reference 57260 ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ใช้เวลาในการสร้างสรรค์นานถึง 8 ปี เพราะมีความสลับซับซ้อนรวมทั้งหมดถึง 57 กลไกด้วยกัน! ซึ่งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและความเข้าใจในศาสตร์แห่งกลไกเรือนเวลาอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ในปี 2020 ที่ผ่านมา ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัว Égérie คอลเลกชันใหม่สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นการผสมผสานศิลปะของ Haute Couture (โอต กูตูร์) เข้ากับ Haute Horlogerie (โอต ออร์โลเฌรี) โดยมีจุดเด่นที่ลวดลายเส้นบนหน้าปัด ซึ่งผลงานนี้เป็นการสร้างสรรค์นาฬิกาสำหรับผู้หญิงในมุมมองของ Vacheron Constantin ที่มองเห็นถึงความงามและความอ่อนหวานที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน

Les Cabinotiers Westminster Sonnerie – Tribute to Johannes Vermeer
ปิดท้ายด้วยนาฬิกาสุดพิเศษอย่าง Les Cabinotiers Westminster Sonnerie – Tribute to Johannes Vermeer ที่ออกมาในปี 2021 นาฬิกาพกเรือนเดียวในโลกที่มีภาพชื่อดังของศิลปินชาวดัทช์ โยฮานเนส เวอร์เมียร์ ถ่ายทอดลงบนฝาหลังของนาฬิกา ซึ่งทางแบรนด์ใช้เวลานานถึง 8 ปีในการสร้างสรรค์เรือนเวลาชิ้นเอกนี้ขึ้นมา โดยเกิดจากการหลอมรวมทักษะขั้นสูงในการสร้างสรรค์นาฬิกาและศิลปะการตกแต่งเข้ามาไว้ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ตกแต่งด้วยเทคนิคลงยา เขียนสีขนาดเล็กซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัวของเจนีวาและเป็นมรดกของแบรนด์ Vacheron Constantin ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 266 ปี!
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Grand Seiko มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่
Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck Muller ได้ที่นี่